บริหารจัดการอาคาร: ระบบน้ำและไฟฟ้า ระบบสำคัญที่ต้องตรวจบ้านอย่างละเอียดระบบน้ำและไฟฟ้าจัดเป็นระบบสำคัญที่บริษัทรับตรวจบ้านทุกพื้นที่ เพราะนอกจากจะเป็นระบบที่มีความซับซ้อน ไม่สามารถตรวจเช็คได้ด้วยสายตาเปล่า เสียหายได้ง่ายแล้ว ยังเป็นระบบที่หากปล่อยให้ชำรุดจะสร้างความไม่ปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัย
เราจึงจะมาลงลึกในรายละเอียดของการตรวจสอบระบบน้ำและไฟฟ้าพร้อมกันว่ามีวิธีการตรวจสอบอย่างไร
วิธีตรวจสอบระบบน้ำ ให้ใช้งานได้สบายใจไร้รอยรั่วซึม
วิธีตรวจสอบระบบน้ำ
โดยส่วนใหญ่ สแควร์วัน อินสเปคเตอร์ บริษัทรับตรวจบ้านก่อนโอนเชียงใหม่และทุกบริษัทตรวจบ้าน จะทำการตรวจระบบน้ำด้วยวิธีตรวจสอบการระบายของน้ำทั้งบริเวณรอบบ้านและภายในบ้าน โดยท่อระบายน้ำจะต้องใช้ได้ดี น้ำสามารถระบายได้เร็วและท่อน้ำต้องไม่ส่งกลิ่นเหม็น ทั้งการระบายของน้ำในห้องน้ำ, การระบายน้ำในห้องครัว, การระบายน้ำของรางน้ำฝน ไปจนถึงการระบายน้ำเสียจากตัวบ้านลงสู่รางระบายน้ำสาธารณะ โดยวิธีการตรวจสอบมีดังต่อไปนี้
1. ห้องครัวและห้องน้ำ
ตรวจสอบว่ามีการอุดตันของการระบายน้ำหรือไม่ ทั้งจากการเปิดใช้งานสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำต้องไม่อุดตัน เอ่อล้น และส่งกลิ่นเหม็น ส่วนท่อระบายน้ำที่พื้นจะต้องระบายน้ำได้ทัน ไม่เอ่อท่วม รวมไปถึงตรวจสอบจุดที่ใช้วางเครื่องซักผ้าว่า เมื่อมีการระบายน้ำออกจากเครื่องแล้ว น้ำเอ่อท่วมพื้นที่หรือมีการระบายได้ดี
2. ต้องตรวจแปลนบ้าน
การตรวจแปลนบ้านเพื่อให้เห็นถึงระบบการเดินท่อน้ำก่อนที่จะระบายน้ำเสียสู่รางสาธารณะหรือบ่อพักต่าง ๆ ว่ามีเส้นทางเดินน้ำอย่างไร สิ่งที่ควรทำคือการเปิดบ่อพักน้ำเสีย เพื่อดูว่ามีน้ำไหลมาตามแปลนจริงหรือไม่ และความสะอาดของบ่อพักเป็นอย่างไร ซึ่งหากพบปัญหาว่ามีการอุดตันหรือบ่อพักน้ำสกปรกต้องแจ้งช่างหรือผู้รับผิดชอบให้ทำการลอกท่อและทำความสะอาดบ่อพักใหม่
และถ้าหากพบปัญหาของน้ำไม่ไหลลงสู่บ่อพักน้ำตามแปลน จะแสดงถึงการก่อสร้างที่ผิดรูปแบบ ต้องเร่งแก้ไขให้ตรงกับแปลน หรือทำการวางท่อระบายน้ำใหม่ทั้งหมด ซึ่งในข้อนี้คุณต้องพึ่งบริษัทรับตรวจบ้านเชียงใหม่ หรือบริษัทรับตรวจบ้านในพื้นที่ของคุณให้ทำการตรวจสอบแปลนบ้าน
วิธีการตรวจระบบไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย
เราได้รู้จักวิธีการตรวจระบบน้ำกันไปแล้ว ต่อไปเราจะมาศึกษาวิธีการตรวจระบบไฟฟ้าพร้อมกัน ซึ่งในเชิงลึกที่ไม่ใช่การตรวจอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทั่วไป เราขอแนะนำให้คุณใช้บริการบริษัทรับตรวจบ้านที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะงานระบบไฟฟ้าที่แท้จริงจะเรียกว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมที่ต้องใช้สถาปนิกเป็นผู้ตรวจสอบ โดยเราสามารถแบ่งระบบไฟออกเป็น ระบบไฟส่องสว่าง และระบบไฟฟ้ากำลัง โดยวิธีการตรวจสอบระบบไฟมีดังต่อไปนี้
1. ตรวจสอบระบบไฟส่องสว่าง
คือการตรวจหลอดไฟและดวงโคมไฟทุกดวงในบ้าน หากหลอดใดขาด เปิดไม่ติด ต้องทำการเปลี่ยน เพราะการเปิดไฟไม่ติดอาจจะหมายถึงขั้วหลอดไฟเสียร่วมด้วย ไม่ใช่หลอดไฟเสียเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านมือสองที่มีอายุมากแล้ว โดยส่วนใหญ่จะใช้ขั้วหลอดไฟแบบเก่าที่ยังคงเป็นหลอดตะเกียบอยู่ ควรแจ้งเจ้าของบ้านหรือโฟร์แมนให้เปลี่ยนหลอดไฟทั้งหมดเป็นระบบ LED เพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานนานกว่าขั้วหลอดไฟแบบเดิม
2. ตรวจสอบระบบไฟฟ้ากำลัง
คือการตรวจสอบตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้าของบ้านทั้งหมด รวมไปถึงตรวจการทำงานของเครื่องตัดไฟ เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร, ไฟฟ้าดูด และไฟฟ้าเกินพิกัด โดยวิธีการตรวจสอบเครื่องตัดไฟ ให้กดที่ปุ่ม Test ในบางยี่ห้อจะแทนด้วยตัว “T” เมื่อกดปุ่มลงไปแล้วเครื่องต้องทำการตัดไฟทั้งหมดภายในบ้าน จึงจะมั่นใจว่าเครื่องยังทำงานได้ดีอยู่
ตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้าของบ้านจะต้องอยู่ในสภาพที่ดี ไม่ชำรุด
ส่วนตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้าของบ้านจะต้องอยู่ในสภาพที่ดี ไม่ชำรุด และที่สำคัญจะต้องมีตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้า หากไม่มีควรแจ้งแก้ไขด้วยการติดตั้งตู้ให้ได้มาตรฐาน ส่วนเครื่องตัดไฟหากพบว่าชำรุดใช้งานไม่ได้ จะต้องซื้อใหม่เท่านั้น เพราะมีความสำคัญต่อความปลอดภัยของชีวิต