เที่ยววัด ในกรุงเทพ และใกล้กรุงเทพ บรรยากาศดี ประเทศไทย เป็นประเทศที่มี วัดสวย มากมายหลายแห่ง ซึ่งวัดสำคัญๆ ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ที่ กรุงเทพ นั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้น คนรักการถ่ายรูปสถาปัตยกรรมสวยๆ ต้องปักหมุดเลยกับ 9 วัดสวยในกรุงเทพ ตามลิสต์นี้เลยค่ะ ได้อิ่มใจ อิ่มบุญ เที่ยวชิลไปในกรุงเทพแบบฉบับบสายบุญกันดูบ้าง
1. วัดพระแก้ว
วัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ในสมัยรัชกาลที่ 1 ค่ะ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทยเราค่ะ เรียกได้ว่า ถ้าได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ แล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดแวะมาที่นี่สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดพระเเก้วนี้เป็นวัดหลวงซึ่งตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง คล้ายกับเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยานั่นเองค่ะ ทำให้ที่นี่ไม่มีพระสงฆ์จำวัดอยู่ อีกทั้งภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของคนไทยอีกด้วย
ที่อยู่ : ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดให้เข้าชม : 08.30-15.30 น.
2. วัดอรุณราชวราราม
วัดอรุณราชวรารามราช วรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณ ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาค่ะ เดิมเรียกว่า วัดมะกอกนอก ในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าให้อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารของรัชกาลที่ 2 มาบรรจุที่พุทธอาสน์ของพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานในอุโบสถวัดอรุณ และพระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดอรุณราชวราราม
ความสวยงาม และโดดเด่นของวัดอรุณฯ ก็คือ พระปรางค์วัดอรุณฯ ค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพระปรางค์สถาปัตยกรรมไทย และมีขนาดใหญ่ สูงจากฐานถึงยอด 81.85 เมตรเลยทีเดียว ประกอบด้วยปรางค์ประธาน และปรางค์รองอีก 4 ปรางค์ด้วยกัน สร้างขึ้นแทนพระปรางค์องค์เดิมในสมัยรัชกาลที่ 2 และบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 4 ค่ะ
นอกจากนี้ยัมีคติความเชื่อของคนไทยที่ว่าหากมาไหว้สักการะที่วัดอรุณฯ สักครั้ง จะมี “ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน” อีกด้วย
ที่อยู่ : 158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
โทร : 0-2891-2185
3. วัดโพธิ์ ท่าเตียน
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ท่าเตียน สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาค่ะ เป็นวัดเก่าแก่และ เป็นวัดประจำรัชกาล 1 อีกด้วย เนื่องจากในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้มีการสถาปนาวัดนี้ใหม่ โดยโปรดเกล้าให้สร้างพระอุโบสถ พระระเบียง พระวิหาร และบูรณะวัดนั่นเอง
ภายในพระวิหาร ยังประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยอีกด้วยค่ะ โดยมีลักษณะพิเศษคือ มีประดับมุกภาพมงคล 108 ประการที่พระบาท เป็นที่สักการะขอพรของคนไทย และทางยูเนสโกยังได้ขึ้นทะเบียนวัดโพธิ์ให้เป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อมีนาคม พ.ศ. 2551 อีกด้วย
นอกจากนี้ วัดโพธิ์ยังถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์เลยทีเดียว ซี่งเจดีย์ที่สำคัญก็คือ มหาเจดีย์ สี่รัชกาล องค์พระเจดีนั้นเป็นแบบเจดีย์ย่อไม้สิบสอง ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ อันประกอบด้วย พระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1-4 ค่ะ
ที่อยู่ : เลขที่ 2 ถนนสนามไชย เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.30 น.
โทร : 0-2226-0335
4. ภูเขาทอง วัดสระเกศ
วัดสระเกศ เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมาจึงได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 1 ค่ะ ภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของ พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ซึ่งเป็นเจดีย์บนภูเขาจำลอง สร้างในสมัยของรัชกาลที่ 3 โดยทรงให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ จนเถึงสมัยรัชกาลที่ 4 จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขา ก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ทำให้ยอดเจดีย์สีทองสวยงาม ส่องสว่างเห็นได้แต่ไกล จนเรียกได้ว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ก็ว่าได้ค่ะ
การขึ้นไปบนภูเขาทองนั้นต้องเดินวนขึ้นไปตามบันไดถึง 300 กว่าขั้น นอกจากนี้ที่ด้านบนยังเป็นจุดชมวิวที่เราจะสามารถมองเห็นกรุงเทพฯ ได้แบบ 360 องศาอีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งวัดสวยในกรุงเทพฯ ที่ต้องแวะมาสักครั้งค่ะ
อีกทั้งในทุกๆ ปี ยังมีการจัด งานภูเขาทอง ซึ่งเป็นพิธีอัญเชิญผ้าแดงห่มองค์พระบรมบรรพต เป็นมงคลพิธีที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ค่ะ ปกติแล้วงานภูเขาทองจะตรงกับช่วงเทศกาลลอยกระทง และมีการจัดงานใหญ่ตลอด 10 วัน 10 คืน
ที่อยู่ : 344 ถนนบริพัตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
เปิดให้เข้าชม : 08.00-19.00 น.
5. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
คำว่า ราชบพิธ หมายถึง พระราชาทรงสร้าง วัดราชบพิธ ซึ่งก็คือ เป็นวัดที่รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับพระอัครมเหสีพระราชเทวี และเจ้าจอมพระสนมเอกของพระองค์ นั่นเองค่ะ
ส่วนคำว่า สถิตมหาสีมาราม นั้นก็คือ เป็นวัดที่ประดิษฐานเสมาขนาดใหญ่ เพราะตามปกติแล้วเสมาของวัดโดยทั่วไปจะอยู่ตามมุมหรือติดอยู่กับตัวพระอุโบสถ แต่เสมาของวัดนี้ตั้งอยู่บนกำแพงรอบวัดถึง 8 ด้าน จึงเป็นการขยายเขตทำสังฆกรรมของสงฆ์ให้กว้างขึ้น อีกทั้งวัดราชบพิธฯ ยังเป็นที่ตั้งของสุสานหลวงแห่งเดียวในกรุงเทพฯ อีกด้วย
พระอุโบสถภายในตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบสถ์คริสต์โดยนำเอาการตกแต่งภายในแบบโกธิค จึงทำให้วัดราชบพิธฯ เป็นวัดที่มีการผสมผสานของไทย และตะวันตกอย่างงดงาม วัดนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 เท่านั้น แต่ยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 7 ด้วยค่ะ เพราะในรัชสมัยของ รัชกาลที่ 7 นั้นไม่ได้มีการสร้างวัดขึ้น แต่ท่านก็ได้รับพระราชภาระในการทำนุบำรุงและบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบพิธนี้ด้วย ดังนั้นจึงถือเป็นวัดประจำพระองค์ด้วยเช่นกัน อีกทั้งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง 3 พระองค์รวมถึงพระองค์ปัจจุบัน
ที่อยู่ : 2 ถนนเฟื่องนคร แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
โทร : –
6. วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร เป็นวัดที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพโปรดให้สร้างขึ้นในสมัย รัชกาลที่ 3 ค่ะ วัดนี้จึงมีสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีนที่งดงาม พระอารามนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง 4 พระองค์ และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยอีกด้วย
วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร เดิมชื่อ วัดใหม่ ซึ่งเป็นวัดโบราณเก่าแก่ ต่อมาเมื่อรัชกาลที่ 4 ทรงผนวช ได้เสด็จมาประทับ และทรงตั้งคณะสงฆ์ธรรมยุตติกนิกายขึ้นที่วัดนี้เป็นครั้งแรก วัดบวรนิเวศวิหารจึงถือเป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของบ้านเรา เพราะเป็นวัดที่ รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 ทรงผนวช ณ วัดนี้อีกด้วย
อีกทั้งหลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของรัชกาลที่ 9 ได้มีการอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร มาประดิษฐานที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร ซึ่งจะถือว่า ที่นี่เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 9 ค่ะ
ที่อยู่ : 248 ถนนพระสุเมรุ แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
โทร : –
7. วัดราชนัดดารามวรวิหาร
วัดราชนัดดารามวรวิหาร สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 3 เพื่อเฉลิมพระเกียรติแก่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี โดยมีเจ้าพระยายมราช (บุนนาค ยมนาค) เป็นผู้ออกแบบแผนผังการสร้างวัด พระอุโบสถ ตลอดจน โลหะปราสาท ค่ะ
ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐาน พระพุทธเสฏฐตมมุนินทร์ ซึงมีความหมายว่า พระพุทธองค์ผู้ทรงประเสริฐสูงสุดยิ่งใหญ่เหนือกว่าพระมุนีใดในโลก และมีจิตรกรรมฝาพนัง ด้านหน้าและด้านหลังเป็นเรื่องพุทธประวัติ
สำหรับ โลหะปราสาท นั้นใช้เวลาการสร้างกว่า 160 ปี แล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 9 นับเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกของไทย เป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด ภายในโลหะปราสาท มีนิทรรศการโลหะปราสาท ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา และการก่อสร้าง
อีกทั้งยังมีบันไดเวียน 67 ขั้น อยู่ตรงกลางปราสาทเพื่อให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวสวยๆ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ด้านบนได้ในมุม 360 องศาค่ะ อีกทั้งยอดโลหะปราสาท ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุอีกด้วย
ที่อยู่ : 2 ถนนมหาไชย แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
โทร : –
8. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เดิมชื่อ วัดแหลม หรือ วัดไทรทอง และได้รับพระราชทานนามจากรัชกาลที่ 5 ใหม่ว่า วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม หมายถึง “วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5” ค่ะ
ประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีสถานที่สำคัญต่างๆ ในวัดมากมายอย่าง ศาลาสี่สมเด็จ หอระฆังบวรวงศ์ พระที่นั่งทรงธรรม พระที่นั่งผนวช พระวิหารสมเด็จ ศาลาอุรุพงศ์ และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ วัดเบญจมบพิตร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 เพื่อจัดแสดงพระพุทธรูปทั้งใน และนอกประเทศอีกด้วย
ที่อยู่ : 69 ถนนพระรามที่ 5 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ
เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.30 น.
โทร : 08-8565-7565
9. วัดยานนาวา
วัดยานนาวา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดโบราณตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบเรือสำเภาซึ่งกำลังจะหมดไปจากเมืองไทย และได้เปลี่ยนชื่อจากวัดคอกกระบือเป็น วัดยานนาวา ค่ะ
ความโดดเด่นของวัดคือ สำเภายานนาวา ซึ่งมีพระเจดีย์องค์ใหญ่และเล็ก อยู่ในลำสำเภารวม 2 องค์ และยังมีภาพจิตรกรรมกระทงใหญ่ ซึ่งถอดแบบจากพระราชพิธีลอยพระประทีป และโถยาคู ตามแบบอย่างที่ทำเลี้ยงพระในพระราชพิธีสารทในสมัยรัชกาลที่ 3
ที่อยู่ : 40 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ
เปิดให้เข้าชม : 05.00-22.00 น.
โทร : 0-2672-3216