ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการติดตั้งฉนวนใยแก้ว ฉนวนกันความร้อน ให้มีประสิทธิภาพ  (อ่าน 8 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 546
  • โพสประกาศขายในไทยฟรี
    • ดูรายละเอียด
วิธีการติดตั้งฉนวนใยแก้ว ฉนวนกันความร้อน ให้มีประสิทธิภาพ

4 วิธีการติดตั้งฉนวนกันความร้อน ฉนวนใยแก้วที่ทุกคนควรรู้ก่อนลงมือทำ

แม้มองด้วยสายตาภายนอก ฉนวนใยแก้ว ไฟเบอร์กลาส หรือ Fiberglass Insulation จะมีหน้าตาดูนุ่มนิ่มไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ถ้าใครทำงานด้านการออกแบบอาคาร หรือการก่อสร้างมานานก็น่าจะทราบถึงอันตรายของวัสดุชนิดนี้เป็นอย่างดี โดยฉนวนใยแก้วนั้นเป็นที่รู้จักในฐานะฉนวนกันความร้อนที่ทำมาจากเส้นใยแก้วสังเคราะห์ สามารถนำมาถักทอเป็นแผ่น หรือทำเป็นม้วนได้ มีโครงสร้างเป็นเส้นใยพรุนที่เรียงตัวแน่นจึงทำให้สามารถกักเก็บอากาศได้ดี ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนระหว่างภายนอกและภายในอาคาร อีกทั้งยังกันความร้อนและเสียงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการติดตั้งฉนวนใยแก้วต้องทำด้วยความระมัดระวังเนื่องจากเส้นใยแก้วมีขนาดเล็กระดับไมโครไฟเบอร์ แต่กลับแข็ง และคมมาก หากสัมผัสถูกผิวหนังจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง แสบร้อน และอักเสบบวมแดงได้ จึงจำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม เช่น ถุงมือ หน้ากากป้องกันฝุ่น แว่นตานิรภัย และเสื้อผ้าปิดคลุมให้มิดชิด เป็นต้น

นอกจากนี้ การติดตั้งฉนวนใยแก้วยังต้องมีการออกแบบ และวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้มันสามารถกระจายตัวไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องการได้อย่างทั่วถึง และไร้ช่องว่างโหว่ โดยเฉพาะในจุดเชื่อมต่อ หรือมุมอับต่าง ๆ เพราะถ้าติดตั้งไม่ดีพอจะทำให้ประสิทธิภาพในการกันความร้อนลดลง รวมไปถึงการตัด หรือดัดแปลงขนาดก็ต้องคำนึงถึงขนาด และรูปร่างของช่องว่างอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถติดตั้งได้อย่างแนบชิดตามไปด้วย เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถติดตั้งฉนวนใยแก้วได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ 4 วิธีการติดตั้งฉนวนใยแก้วที่ทุกคนควรรู้ก่อนลงมือทำ ตามมาอ่านไปพร้อมกันเลย

4 แนวทางยอดนิยมสำหรับติดตั้งฉนวนใยแก้วให้มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน

    พ่นฉนวนใยแก้ว (Blown-in Insulation)

    การพ่นฉนวนใยแก้ว (Blown-in Insulation) นับเป็นหนึ่งในวิธีการติดตั้งฉนวนใยแก้วที่มีประสิทธิภาพสูงมากวิธีการหนึ่ง เพราะสามารถเลือกความหนา และความแน่นของฉนวนได้ตามต้องการ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการติดตั้งในอาคารเก่า หรือพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก สำหรับกระบวนการทำงานของวิธีการนี้จะเริ่มต้นด้วยการใช้เครื่องพ่นฉนวนใยแก้วผสมกับสารเคลือบผิว แล้วฉีดพ่นผ่านท่อยาวเข้าไปในช่องว่างของผนัง พื้น หรือหลังคา จากนั้นฉนวนจะกระจายตัวแน่น ทั่วถึง และสามารถปกคลุมจุดอับต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม อย่างไรก็ตามการติดตั้งด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาที่มีความชำนาญ และเครื่องมือพิเศษ จึงมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และอาจมีปัญหาฝุ่น และก๊าซจากสารเคลือบผิวรั่วซึมร่วมด้วย จึงจำเป็นต้องมีมาตรการระบายอากาศ

    ม้วนฉนวนใยแก้ว (Batt Insulation)

    วิธีการม้วนฉนวนใยแก้ว (Batt Insulation) คือวิธีการติดตั้งฉนวนใยแก้วที่นิยมใช้กันมากที่สุด เหมาะสำหรับการก่อสร้างอาคารใหม่ หรือการปรับปรุงอาคารเก่าที่สามารถเข้าถึงช่องว่างได้โดยสะดวก โดยกระบวนการทำงานของวิธีการนี้จะเริ่มด้วยการนำแผ่นฉนวนใยแก้วที่ม้วนเตรียมไว้แล้วมาคลี่ออกแล้วแผ่ให้กว้าง จากนั้นทำการวางเรียงลงไปในช่องว่างของผนัง พื้น หรือหลังคาจนเต็ม แน่น และปิดช่องว่างให้มิดชิดที่สุด ไม่มีช่องว่างโหว่ ข้อดีของวิธีการนี้คือติดตั้งง่าย ประหยัดแรงงาน ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ และยังสามารถเลือกชนิด ความหนา และคุณสมบัติต่าง ๆ ของฉนวนได้หลากหลาย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เพราะอาจจะปิดช่องว่างได้ไม่สนิทมากนักหากช่องว่างไม่สม่ำเสมอ

    รีดร้อนฉนวนใยแก้ว (Rigid Insulation)

    การรีดร้อนฉนวนใยแก้ว (Rigid Insulation) เป็นอีกหนึ่งวิธีการติดตั้งฉนวนใยแก้วที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในการก่อสร้างอาคารใหม่หรือปรับปรุงอาคารเก่า โดยฉนวนใยแก้วที่ใช้สำหรับวิธีการนี้จะถูกผลิตออกมาในรูปแบบของแผ่นแข็ง ๆ คล้ายแผ่นกระดาน อันเกิดจากการนำเส้นใยแก้วมาอัดประกบกันให้แน่นด้วยความร้อน และแรงดัน จนเกิดเป็นแผ่นฉนวนที่มีโครงสร้างแน่นทึบ มีความหนา และขนาดมาตรฐาน ในส่วนของกระบวนการติดตั้ง จะเริ่มต้นด้วยการนำแผ่นฉนวนเหล่านี้มาประกบติดกับผนัง หรือหลังคาด้วยกาวร้อนหรือตะปู เพื่อให้แนบสนิทกับพื้นผิวโดยไม่มีช่องว่างหลงเหลืออยู่ ข้อดีของวิธีนี้คือเรื่องของความสะดวกสบาย ติดตั้งง่าย เพราะมีขนาด และรูปแบบมาตรฐานจากโรงงาน มีความคงทน และประสิทธิภาพสูง เนื่องจากเป็นแผ่นแข็งที่มีโครงสร้างทึบแน่น อีกทั้งยังสามารถเลือกคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ความหนา ความแน่น กันเสียงได้ตามต้องการด้วย อย่างไรก็ตามวิธีการนี้มีราคาค่อนข้างสูงกว่าวิธีการติดตั้งฉนวนวิธีอื่น ๆ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และถ้าติดตั้งบนพื้นผิวที่มีความไม่เรียบเสมอกัน อาจเกิดปัญหารอยต่อหรือช่องว่างได้จึงไม่เหมาะกับอาคารที่ซับซ้อน หรือมีซอกซอยเยอะ ๆ

    ใช้ฉนวนใยแก้วหุ้มท่อต่าง ๆ

    นอกจากการติดตั้งฉนวนใยแก้วในอาคารแล้ว ฉนวนใยแก้วยังสามารถนำมาใช้กับการหุ้มท่อต่าง ๆ ได้ด้วย เพราะว่าจะช่วยให้ประหยัดพลังงาน รักษาอุณหภูมิ ป้องกันปัญหาต่าง ๆ และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยสำหรับท่อนำความร้อน อย่างท่อไอเสีย และท่อลมร้อน ฉนวนใยแก้วจะช่วยเก็บกักความร้อนไม่ให้รั่วไหลออกจากท่อ ทำให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และรักษาอุณหภูมิได้ดี ในขณะที่ท่อนำความเย็นอย่างท่อแอร์ ฉนวนจะกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ท่อ ช่วยรักษาอุณหภูมิเย็นได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังป้องกันการเกิดหยดน้ำค้างบนผิวท่อเย็น ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาเชื้อราและความชื้น นอกจากนี้การหุ้มท่อด้วยฉนวนกันความร้อนเอาไว้ ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสท่อร้อนหรือเย็นจนเกินไป ทำให้ปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน และลดเสียงรบกวนจากท่อต่าง ๆ ได้ด้วย

จะเห็นได้เลยว่าการติดตั้งฉนวนใยแก้วให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้นมีให้เลือกหลายวิธีมาก ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับว่าอาคาร หรือสถานที่ที่เราต้องการติดตั้งนั้นมีรูปลักษณ์แบบไหนนั่นเอง