สายมูไม่ควรพลาด ! ไหว้พระมาเก๊า กับ 10 วัดดัง ทำบุญขอพรเสริมดวงแบบปัง ๆ

[siritidaphon]

สายมูไม่ควรพลาด ! ไหว้พระมาเก๊า กับ 10 วัดดัง ทำบุญขอพรเสริมดวงแบบปัง ๆ

พูดถึง มาเก๊า หนึ่งในที่เที่ยวต่างประเทศที่มีชื่อเสียงของจีน หลายคนก็คิดถึงกาสิโน การช้อปปิ้ง ที่เที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจัตุรัสเซนาโด้ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล ป้อมปราการเกีย เวเนเชียน รวมถึงอาหาร ขนมอร่อย ๆ ทั้งโจ๊กปู ขนมปังหมูทอด ทาร์ตไข่ พุดดิ้งในเปลือกไข่ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่อีกหนึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมทำกันเมื่อได้มาเยือนมาเก๊า คือ การไหว้พระ ขอพรจากวัด ศาลเจ้า และสถานที่สำคัญ ๆ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต ซึ่ง มาเก๊า แม้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ก็มีวัดและศาลเจ้าจีนหลายแห่ง ที่เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของคนจีนในมาเก๊าและคนจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย วันนี้ขอแนะนำ 10 วัดดังในมาเก๊าที่มีชื่อเสียง และเป็นเป้าหมายในการไปไหว้พระมาเก๊า จะมีวัดไหนบ้าง ไปดูกันเลย


1. วัดอาม่า (A-Ma Temple)

          1 ใน 3 วัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1488 ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง เพื่อเป็นการสักการะต่อ อาม่า หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ เจ้าแม่ทับทิม องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเลที่คอยปกป้องคุ้มครองชาวประมงและผู้เดินทางทางเรือ ภายในวัดมีหลายจุดให้กราบไหว้ขอพร ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าแม่กวนอิม ศาลพระพุทธ หอเมตตาธรรม และก้อนหินแกะสลักรูปเรือสำเภาโบราณ ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ที่องค์อาม่าเหยียบเป็นก้าวแรก รวมถึงโบราณวัตถุมีค่าหลายชิ้น อีกทั้งวัดอาม่าแห่งนี้ยังได้รับการบันทึกจากองค์กร UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย

          สำหรับการขอพรที่วัดอาม่านั้น มีความเชื่อว่าผู้ที่ทำธุรกิจการค้าด้านการขนส่งควรมาสักการะที่วัดอาม่าแห่งนี้เพื่อขอให้การเดินทางปลอดภัย ราบรื่น ไม่มีอุปสรรคใด ๆ ขวางกั้น นอกจากนี้ยังสามารถอธิษฐานขอพรเรื่องการเงิน การงาน และการค้าขาย กับก้อนหินแกะสลักรูปเรือสำเภา โดยมีวิธีการคือ ใช้ธนบัตรไทยที่ไม่มีเลข 4 นำไปลูบไล่จากฝั่งท้ายเรือมายังหัวเรือ จากนั้นพับเก็บใส่กระเป๋าสตางค์พกติดตัวไว้ เชื่อกันว่าเงินทองจะไหลมาเทมา มีโชคลาภ ร่ำรวย


2. วัดเจ้าแม่กวนอิม (Kun Iam Temple)

เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1627 ในสมัยราชวงศ์หยวน โดยสร้างเพื่อถวายแด่พระโพธิสัตว์กวนอิม อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวมาเก๊า ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม ที่แต่งเครื่องทรงด้วยชุดเจ้าสาวโบราณทำจากผ้าไหม และมีการปรับเปลี่ยนชุดที่สวมใส่อยู่ใหม่ทุกปี เป็นอีกปางที่คนไทยมักไม่ค่อยได้เห็นจากที่ไหน นอกจากนี้ภายในวิหารที่ 2 ของวัดยังเป็นที่ประดิษฐานของ พระไวโรจนพุทธะ ซึ่งผู้คนนิยมมาขอพรในเรื่องสุขภาพให้แข็งแรงอีกด้วย โดยการไหว้อธิษฐานขอพรควรเริ่มจากตำหนักในสุด แล้วไหว้ไล่ออกมาจนถึงตำหนักหน้าสุดที่อยู่ใกล้ประตูทางออกมากที่สุด และนิยมมาขอพรกับเจ้าแม่กวนอิมเพื่อให้มีเงินทอง ร่ำรวยมั่งมี และมีโชคลาภ

เจ้าแม่กวนอิม คือหนึ่งในพระโพธิสัตว์ หรือเทพเจ้าที่คนไทยและคนไทยเชื้อสายจีนนับถือเป็นอย่างมาก ซึ่งคำว่า กวนอิม หมายถึง “การสังเกตเสียงของโลก” ในศาสนาพุทธของจีน และคำว่า กวนอิม ยังมีความหมายเหมือนกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ ความกรุณา และความรัก พระองค์ยังเป็นหนึ่งในเทพ 78 องค์ของไพ่เทวะมันตรา พยากรณ์ ซึ่งเป็นไพ่พยากรณ์ 78 ใบ ที่ทำนายในเรื่องความรัก การเงิน การงาน สุขภาพ และเพื่อหาคำตอบให้กับแนวทางชีวิตในอนาคต ทั้งยังช่วยคลี่คลายปัญหาและความคับข้องใจหมองใจที่เกิดขึ้นกับเราอีกด้วย


3. ศาลเจ้านาจา (Na Tcha Temple)

           ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1888 เพื่ออุทิศให้แก่ยุวเทพนาจา หรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า นาจาไท้จื้อ เพื่อขอให้ท่านคุ้มครองจากกาฬโรคที่ระบาดอย่างรุนแรงไปทั่วมาเก๊าในขณะนั้น โดยศาลเจ้าเป็นวัดขนาดเล็ก ตั้งอยู่ติดกับรั้วกำแพงโบราณของโบสถ์เซนต์ปอล ประกอบด้วยโถงกลางและศาลาสำหรับสวดภาวนา ภายในมีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนและตะวันตก ต่อมาได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกของ UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 2005

           ศาลเจ้านาจาแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการมากราบไหว้ขอลูก รวมถึงใครที่มีลูกแล้วก็ขอพรให้ลูกหลานสุขภาพแข็งแรงได้ด้วย นอกจากนี้ที่ศาลยังมี องค์แม่นาจา ที่ผู้คนนิยมมาขอพรให้ลูกหลานเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย อยู่ในโอวาทอีกด้วย


4. วัดซำไกวุยคุน (Sam Kai Vui Kun Temple) หรือวัดกวนไท (วัดกวนอู) (Kuan Tai Temple)

           หนึ่งในวัดยอดนิยมที่คนมาเก๊าจะมาบูชาเทพเจ้ากวนอู ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่มีวัดและศาลเจ้ามากที่สุด ทั้งในจีน ไทย และประเทศต่าง ๆ โดย วัดซำไกวุยคุน เป็นวัดเล็ก ๆ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1750 นับเป็นหนึ่งในมรดกโลกของ UNESCO ตั้งอยู่ใจกลางศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊า ใกล้กับย่านตลาดจีนเก่า มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวเนื่องกับสมาคมการค้าและหอการค้าของจีน เป็นสิ่งก่อสร้างแบบจีนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองท่ามกลางอาคารแบบตะวันตก แสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันของสองวัฒนธรรมอย่างกลมกลืน ทั้งนี้ คำว่า ซำไกวุยคุน แปลเป็นไทยได้ว่า ที่ประชุมของถนน 3 สาย (Three Street Meeting Quarter) ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดกวนไท ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้ากวนอู ซึ่งผู้คนมีความเชื่อกันว่า เทพเจ้ากวนอู เป็นเทพเจ้าที่รักษาคำพูดด้วยชีวิต รักคุณธรรม ซื่อสัตย์ ช่วยปกป้องสิ่งชั่วร้ายภยันตรายต่าง ๆ และเสริมอำนาจบารมีในการปกครอง รวมถึงเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งที่นิยมมากในหมู่นักธุรกิจด้วย

           ด้วยเหตุนี้ ศาลเจ้ากวนอูแห่งนี้จึงเป็นที่นิยมของผู้นำทางธุรกิจ ตำรวจ นักการเมือง ที่จะมากราบไหว้ขอพร ด้วยความเชื่อที่ว่าเทพเจ้ากวนอูจะช่วยปกป้องสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ปกป้องไม่ให้กิจการถูกเอารัดเอาเปรียบหรือโดนโกง และช่วยเสริมอำนาจบารมีในการปกครอง รวมถึงถ้าอยากมีลูกน้องบริวารดี ช่วยส่งเสริมให้การงานประสบความสำเร็จ ก็นิยมไหว้ขอพรจากองค์ม้าเซ็กเธาว์ ม้าคู่ใจขององค์กวนอู เพื่อช่วยเสริมส่งบารมีของผู้เป็นเจ้านายด้วย


5. วัดลินฟง (Lin Fong Temple)

          เดิมชื่อวัดเถียนเฟย (Tian Fei Temple) หรือวัดดอกบัว เป็น 1 ใน 3 วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1592 ในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นวัดในลัทธิเต๋าแห่งเดียวในมาเก๊าที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรม และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจีนอีกด้วย ภายในเป็นที่ประดิษฐานของเทพทางการแพทย์ อี้เล่งไตไต และหลั่นหลงไตไต เพื่อขอพรให้สุขภาพดี รวมถึงที่วัดแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของ องค์เทพกิมฮัว ถึง 2 องค์ โดยองค์หนึ่งกำลังตั้งครรภ์ และอีกองค์หนึ่งกำลังอุ้มเด็ก ซึ่งองค์เทพกิมฮัวนี้เชื่อกันว่าเป็นเทพที่อำนวยพรให้แม่และเด็ก จึงมีคนนิยมมาขอลูกกันด้วย

          นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิมปางมหาบุรุษ ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรให้ช่วยขจัดปัดเป่าศัตรูและสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ และยังเป็นที่ประทับของเทพอีกหลายองค์ รวมทั้งยังมีหอเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย สำหรับเสริมดวง แก้ปีชงด้วย


6. วัดทำกง โคโลอาน (Tam Kung Temple Coloane)

ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโคโลอาน หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ริมทะเล เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1862 เพื่ออุทิศแด่เทพทำกง เทพเจ้าลัทธิเต๋าผู้คุ้มครองชาวเรือชาวประมงให้อยู่รอดปลอดภัย ด้วยความเชื่อที่ว่าเทพทำกงจะชอบปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชาย และจะแสดงอิทธิฤทธิ์ช่วยคนให้รอดพ้นจากอันตรายในทะเล ทำให้เป็นที่นับถือกันมากในหมู่ชาวเรือและชาวประมง ภายในวัดโดดเด่นด้วยรูปปั้นลายครามประดับหลังคาสวยงาม มีจิตรกรรมฝาผนังของเสือโคร่งกับกระบอง ตาโตและมีลายสีส้ม ฉากหลังเป็นหินและต้นสนสลับไปมา นอกจากนี้ยังมีเรือมังกรจำลองขนาด 4 ฟุต ทำจากกระดูกปลาวาฬ และหุ่นลูกเรือที่ทำด้วยไม้ในชุดสีแดงและหมวกสีเหลืองอยู่ด้านในด้วย ซึ่งในวันตรุษจีน ผู้คนต่างพากันมากราบไหว้ขอพรและหวังว่าเรือมังกรจะนำพาโชคลาภมาให้ตลอดปี และในวันที่ 8 เดือน 4 ตามปฏิทินจันทรคติของทุกปี จะมีงานฉลองวันเกิดของเทพทำกง โดยจะมีทั้งการแสดงงิ้ว ขบวนแห่ เชิดสิงโต ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานเนืองแน่นทุกปี


7. วัดเปากง (Pao Kong Temple) และศาลเจ้าแห่งเทพการแพทย์ (Temple of Divinity of Medicine)

          เป็นกลุ่มวัดที่ประกอบด้วย 3 วัดเล็ก ๆ ดังนี้

    ศาลเจ้าแห่งเทพการแพทย์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดอี่เหล็ง (I Leng Temple) ตั้งอยู่ทางด้านขวามือติดกับวัดเปากง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1893 ด้านในมีเทพอยู่ 3 องค์ คือ เทพไท้ส่วยเอี้ย เทพจี้กง และเทพเจ้าแห่งพละกำลัง ผู้คนจึงนิยมมาไหว้ขอพรเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ เมื่อเดินเข้าไปด้านในจะมีทางเดินเล็ก ๆ ขึ้นไปที่ชั้นบน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปนอนที่มีอายุกว่า 200 ปี ที่มีความเชื่อว่าหากใครต้องการขอลูกทั้งลูกสาวและลูกชายให้มาขอพรกับพระนอนองค์นี้ รวมถึงหากใครต้องการขอเรื่องความรักก็ให้นำด้ายแดงมาผูกไว้ที่เทพคู่รัก 2 องค์ที่อยู่ข้าง ๆ กับพระนอนได้ 

    วัดเปากง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1889 ตั้งอยู่ตรงกลาง เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเทพเปากง หรือเปาบุ้นจิ้น เทพแห่งความยุติธรรมตามความเชื่อของจีน เหมาะที่จะมาไหว้ขอพรให้ช่วยปัดเป่าเรื่องร้าย ๆ ให้หายไป หรือหากใครที่ทำธุรกิจก็เหมาะที่จะมาขอพรให้เทพเปากงช่วยดูแลในเรื่องเอกสารสัญญาต่าง ๆ ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือถูกโกง รวมถึงคนที่กำลังจะเตรียมสอบในเรื่องกฎหมาย ทนายความ ก็นิยมมาขอพรที่วัดแห่งนี้เช่นกัน และที่วัดเปากง ยังมีหอเทพไท้ส่วยเอี้ย 60 องค์ สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปีชง โดยเทพไท้ส่วยเอี้ยทั้ง 60 องค์จะตั้งเรียงรายอยู่รอบห้องสลับกันไปตามแต่ปีนักษัตร หรือสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากปี ค.ศ. ที่เขียนกำกับเอาไว้ใต้ฐานของแต่ละองค์ได้เลย นอกจากนี้ภายในวัดยังมีโถงสำคัญสำหรับผู้หญิงชาวมาเก๊า คือ โถงแห่งเทพีผู้คุ้มครองหญิงตั้งครรภ์ ความอุดมสมบูรณ์ของเผ่าพันธ์ุ และการคลอดบุตร จึงมีผู้มาขอบุตรหลาน ขอให้หญิงตั้งครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง และขอให้เทพเจ้าช่วยดูแลลูกในท้องให้ปลอดภัย เติบโตมาเป็นเด็กฉลาดและแข็งแรงด้วย

    วัดหนานซาน (Nanshan Temple) ตั้งอยู่ทางด้านขวามือติดกับวัดเปากง เป็นวัดที่สร้างขึ้นหลังสุด ด้านในเป็นที่ประดิษฐานของเทพจงขุ่ย เทพเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในการปัดเป่าวิญญาณร้ายและสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ให้พ้นจากตัว เชื่อกันว่าเป็นเทพที่มาจากเมืองหนานซาน ชาวบ้านจึงนำมาเรียกเป็นชื่อวัดจนถึงปัจจุบัน


8. วัดเทพเจ้าโทเท (Tou Tei Temple at Patane)

          หรือที่คนมักจะเรียกว่า วัดเทพเจ้าแห่งผืนแผ่นดิน เป็นวัดที่สร้างขึ้นในช่วงปลายราชวงศ์หมิง เพื่อถวายแด่เทพเจ้าแห่งผืนแผ่นดิน เทพเจ้าโทเท หรือที่ชาวจีนรู้จักกันในนาม เทพตี่จู่เอี้ย ตามความเชื่อในตำนานที่ว่าเป็นเทพเจ้าผู้ดูแลปกปักผืนแผ่นดิน การกราบไหว้เทพเจ้าองค์นี้จึงปรากฏทั่วไปในมาเก๊า ด้านในวัดจะมีโถงแห่งเทพเจ้าโทเท เป็นที่รู้จักกันในนาม วิงฟก เทพเจ้าแห่งโชคดี เป็นโถงที่เก่าแก่ที่สุด มีหน้าจั่วและศาลาทรงดอกบัว ตั้งอยู่ด้านหน้าของโถง ไว้สำหรับการสวดบูชา และประกอบด้วยอีก 4 โถงสำคัญ คือ โถงแห่งความสุขนิรันดร์ โถงแห่งน้ำและดวงจันทร์ โถงแห่งยาและเวชกรรม และโถงแห่งพระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในแต่ละโถงจะมีองค์เทพที่เป็นประธานในแต่ละโถง เช่น เจ้าแม่กวนอิม พระพุทธเจ้า เทพแห่งการแพทย์และอื่น ๆ


9. วัดลินไก (Lin Kai Temple)

          สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1830 เพื่ออุทิศแด่เหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งมวล จึงถือว่าเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าจำนวนมากที่สุดในมาเก๊า โดยชื่อ ลินไก มีความหมายในภาษาจีนว่า ดอกบัวและธารน้ำ เป็นวัดที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรจากองค์เทพฮวากวาง หรือ หั่วกวงไต่เต่ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง หรือเทพแห่งไฟ และเทพธิดาที่เกี่ยวข้องกับการให้กำเนิดทารกและการเลี้ยงดูทารก ตามผนังมีรูปปั้นดินเหนียวเทพธิดากับเด็ก ๆ เหมาะสำหรับคู่แต่งงานที่มีลูกยากก็จะมาอธิษฐานขอลูกชาย ลูกสาว หรือผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ก็มาขอให้เทพธิดาช่วยดูแลลูกในท้องให้ออกมาแข็งแรงปลอดภัย


10. องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปรางค์ทอง (Kun Iam Ecumenical Center)

         อีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่มาเก๊า นั่นคือ ศูนย์ส่งเสริมศาสนาเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งจะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทององค์ใหญ่ สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์ สูง 20 เมตร หนักกว่า 1.8 ตัน ประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัว สง่างามและอ่อนช้อย เป็นเจ้าแม่กวนอิมที่มีพระพักตร์เป็นหน้าพระแม่มารี ซึ่งประเทศโปรตุเกสตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า ในโอกาสที่ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงว่าโปรตุเกสมีสัมพันธไมตรีที่ดีกับมาเก๊า ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ เป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมเพียงแห่งเดียวในโลกที่ไม่หันหน้าออกทะเล แต่หันหน้าเข้าแผ่นดินแทน คล้ายกับมาโปรดพรต่าง ๆ ให้กับผู้คน ซึ่งการมาไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ก็เพื่อรับพลังบวกให้ชีวิต เสริมสร้างสิริมงคลนั่นเอง

         โดยจุดสำคัญในการขอพรองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่นี่นั้นมีอยู่ 3 จุด คือ ด้านหน้าระหว่างทางเดิน 2 จุด และจุดรับพลังจักรวาลที่อยู่ภายในอีก 1 จุด นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าหากใครมาไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิมแล้วสามารถหาสัญลักษณ์ Infinity หรือเลข 8 ที่ซ่อนอยู่ทั้ง 3 แห่งพบ จะทำให้มีโชคดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย


มาตรการเดินทางเข้ามาเก๊า

            สำนักงานการท่องเที่ยวมาเก๊า ได้ออกอัปเดตมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 สำหรับนักเดินทางที่เดินทางเข้ามาเก๊า มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2023 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    กรณีเดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง หรือไต้หวัน ไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทั้งก่อนเดินทางและเมื่อเดินทางมาถึง

    กรณีเดินทางจากประเทศอื่น ๆ ต้องตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง

    กรณีเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ผ่านมาเก๊า

        นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าจูไห่ ผ่านทางมาเก๊า ต้องยื่นใบรับรองการข้ามเขตแดนผ่าน Guangdong Health Code หรือลงทะเบียนผ่าน China Customs Health Declaration

        นักท่องเที่ยวที่มาจากฮ่องกง ไต้หวัน หรือประเทศอื่น ๆ และอยู่ในมาเก๊า 7 วัน (รวมวันที่เดินทางมาถึงมาเก๊าด้วย) ต้องยื่นผลตรวจโควิด 19 แบบ PCR ที่มีผลเป็นลบ ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้าจูไห่

        นักท่องเที่ยวที่ใช้ checkpoint ระหว่างมาเก๊าและจูไห่ การนับเวลาผลตรวจคือ 48 ชั่วโมงจากการเก็บตัวอย่าง

    กรณีเดินทางเข้าฮ่องกงจากมาเก๊า (เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไปเท่านั้น)

        ต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี RT-PCR ที่มีผลเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนเวลาเดินทาง หรือตรวจด้วย ATK ภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนเวลาเดินทาง (หมายเหตุ : ATK ตรวจเองได้ หรือจะให้สถานพยาบาลตรวจให้ก็ได้)

        สำหรับผู้ที่เคยอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่มาด้วยภายใน 7 วัน ก่อนเดินทางเข้าฮ่องกง จำเป็นต้องยื่นผลตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี RT- PCR ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนเวลาเดินทางเข้าฮ่องกง

       เป็นอย่างไรบ้างกับ 10 วัดดังของมาเก๊า ที่เรานำมาฝากกัน ซึ่งแต่ละวัดก็มีความเชื่อในการขอพรแตกต่างกันไป ทั้งเรื่องสุขภาพ การงาน โชคลาภ และเงินทอง ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะแวะไปกราบไหว้ขอพรสักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลของตัวเองนะ