ผู้เขียน หัวข้อ: งานฝีมือ ทำดอกไม้แห้งให้เก็บรักษาคงรูปดังเดิม  (อ่าน 4 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 667
  • โพสประกาศขายในไทยฟรี
    • ดูรายละเอียด
งานฝีมือ ทำดอกไม้แห้งให้เก็บรักษาคงรูปดังเดิม

การทำดอกไม้แห้งให้คงรูปทรงเดิมและรักษาสีสันให้ได้มากที่สุดนั้นเป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยเทคนิคและวัสดุที่เหมาะสมค่ะ วิธีที่นิยมและให้ผลลัพธ์ดีที่สุดคือการใช้สารดูดความชื้น (Silica Gel) ซึ่งได้อธิบายไปแล้วในส่วนของการอบดอกบัว แต่ก็มีวิธีอื่น ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน ดังนี้ค่ะ


1. การอบด้วยสารดูดความชื้น (Silica Gel) - วิธีที่ดีที่สุด

หลักการ: ซิลิกาเจลจะดูดความชื้นออกจากกลีบดอกไม้ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทำให้ดอกไม้แห้งโดยไม่เหี่ยวหรือเสียรูปทรงมากนัก และรักษาสีสันได้ดีกว่าวิธีอื่น

ขั้นตอนโดยสรุป:

เลือกดอกไม้ที่สมบูรณ์ ไม่มีตำหนิ และกำลังบานได้ที่

เทซิลิกาเจลรองพื้นในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท

วางดอกไม้ลงไป จัดรูปทรงให้สวยงามตามต้องการ

ค่อยๆ เทซิลิกาเจลกลบดอกไม้ให้มิดทุกส่วน โดยเฉพาะตามซอกกลีบดอก

ปิดฝาให้สนิท ทิ้งไว้ 3-7 วัน (ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดดอกไม้)

ค่อยๆ เทซิลิกาเจลออก และใช้พู่กันขนนุ่มปัดทำความสะอาด

ข้อดี: รักษารูปทรงและสีสันได้ดีที่สุด

ข้อจำกัด: มีค่าใช้จ่ายสำหรับซิลิกาเจล และต้องระมัดระวังในการปัดซิลิกาเจลออกเพราะดอกไม้จะเปราะบางมาก


2. การอบด้วยทราย (Fine Sand) หรือบอแรกซ์ผสมแป้งข้าวโพด

หลักการ: คล้ายกับการใช้ซิลิกาเจล คือใช้ทรายหรือผงผสมดูดความชื้นออกจากดอกไม้ช้าๆ

ขั้นตอนโดยสรุป:

ใช้ทรายละเอียดที่ผ่านการล้างและอบแห้งสนิทแล้ว หรือผงบอแรกซ์ผสมแป้งข้าวโพดในอัตราส่วน 1:1

ทำตามขั้นตอนเดียวกับการใช้ซิลิกาเจล คือรองพื้น วางดอกไม้ และกลบให้มิด

ระยะเวลาในการอบอาจนานกว่าซิลิกาเจล (ประมาณ 1-3 สัปดาห์)

ข้อดี: วัสดุหาง่ายและราคาถูกกว่าซิลิกาเจล

ข้อจำกัด: อาจรักษาสีสันได้ไม่ดีเท่าซิลิกาเจล และต้องใช้ความระมัดระวังในการทำความสะอาดดอกไม้


3. การแขวนผึ่งลม (Air Drying)

หลักการ: เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและประหยัดที่สุด โดยการปล่อยให้ดอกไม้แห้งตามธรรมชาติ

ขั้นตอนโดยสรุป:

เลือกดอกไม้ที่ยังสดและสมบูรณ์

มัดรวมก้านดอกไม้เป็นช่อเล็กๆ (ไม่ควรมัดรวมกันแน่นเกินไป)

แขวนดอกไม้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง (เช่น ในตู้เสื้อผ้าที่เปิดระบายอากาศ หรือห้องเก็บของ)

ทิ้งไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ หรือจนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิท

ข้อดี: ง่าย ประหยัด ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ

ข้อจำกัด: ดอกไม้อาจจะหดตัวหรือเปลี่ยนรูปทรงไปบ้าง สีอาจซีดลงหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้ง่าย


4. การอบด้วยไมโครเวฟ (Microwave Drying)

หลักการ: ใช้ความร้อนจากไมโครเวฟช่วยเร่งกระบวนการดูดความชื้นของซิลิกาเจล


ขั้นตอนโดยสรุป:

เตรียมดอกไม้และซิลิกาเจลในภาชนะที่เข้าไมโครเวฟได้ (ไม่มีส่วนประกอบโลหะ) เช่น แก้ว หรือเซรามิก

กลบดอกไม้ด้วยซิลิกาเจลให้มิด

นำเข้าไมโครเวฟ โดยใช้ไฟต่ำ (Low/Defrost) และอบเป็นช่วงสั้นๆ (เช่น ครั้งละ 30 วินาที - 1 นาที) สลับกับการนำออกมาเช็คความแห้ง

เมื่อดอกไม้แห้งแล้ว ให้นำออกมาจากไมโครเวฟ แต่ยังคงทิ้งไว้ในซิลิกาเจลในภาชนะที่ปิดสนิทอีก 1-2 วัน เพื่อให้ดอกไม้คายความร้อนและแห้งสนิทอย่างสมบูรณ์

ข้อดี: รวดเร็วมาก เหมาะสำหรับดอกไม้ที่ต้องการใช้ด่วน

ข้อจำกัด: ต้องระมัดระวังอย่างมากในการควบคุมเวลาและอุณหภูมิ เพราะดอกไม้อาจไหม้หรือเสียรูปทรงได้ง่ายหากอบนานเกินไป


เคล็ดลับเพิ่มเติมในการรักษารูปทรงและสีสัน

เลือกดอกไม้ที่เหมาะสม: ดอกไม้ที่มีกลีบหนาและแข็งแรง เช่น กุหลาบ บัว คาร์เนชั่น จะรักษารูปทรงได้ดีกว่าดอกไม้กลีบบาง

เก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสม: ควรเก็บดอกไม้ในช่วงที่ดอกกำลังบานสวยงามที่สุด ไม่ใช่ดอกที่กำลังจะโรย

การเตรียมดอกไม้: ตัดก้านให้สั้นตามต้องการ หรือริดใบออกให้หมด

การจัดรูปทรง: ในขณะที่ดอกไม้ยังสดอยู่ ให้จัดรูปทรงของกลีบดอกให้สวยงามตามที่ต้องการก่อนนำไปอบ

การใช้สเปรย์เคลือบ: หลังจากดอกไม้แห้งสนิทแล้ว สามารถฉีดสเปรย์เคลือบดอกไม้แห้ง (Floral Sealant Spray) หรือสเปรย์เคลือบเงาสำหรับงานฝีมือ (Clear Acrylic Sealer) บางๆ เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันความชื้น และรักษาสีสันให้คงทนยิ่งขึ้น

การเก็บรักษา: เก็บดอกไม้แห้งไว้ในที่แห้ง ปราศจากความชื้น แสงแดดโดยตรง และฝุ่นละออง เช่น ในกล่องที่มีฝาปิดสนิท หรือในตู้โชว์ เพื่อยืดอายุการใช้งาน

การทำดอกไม้แห้งให้คงรูปทรงเดิมต้องใช้ความอดทนและเรียนรู้จากประสบการณ์ค่ะ ลองใช้วิธีที่เหมาะสมกับดอกไม้ที่คุณมีและอุปกรณ์ที่คุณสามารถหาได้นะคะ