แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 57
1
ตับอักเสบเกิดขึ้นได้อย่างไร

ตับอักเสบ (Hepatitis) หมายถึง ภาวะที่เซลล์ตับเกิดการบาดเจ็บและอักเสบ ซึ่งส่งผลให้การทำงานของตับลดลง ตับอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้:

1. การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ (Viral Hepatitis)
เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยมีไวรัสหลายชนิดที่ทำให้เกิดตับอักเสบ ซึ่งแต่ละชนิดมีวิธีการติดต่อและความรุนแรงแตกต่างกัน

ชนิดไวรัส   วิธีการติดต่อหลัก                                                     ลักษณะความรุนแรง
A (HAV)   การรับประทานอาหาร/น้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ (จากอุจจาระ)   มักเป็น เฉียบพลัน และหายขาดได้เอง ไม่เป็นเรื้อรัง
B (HBV)   ทางเลือด, เพศสัมพันธ์, แม่สู่ลูก, การใช้เข็มร่วมกัน   อาจเป็น เฉียบพลัน หรือพัฒนาเป็น เรื้อรัง นำไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับ
C (HCV)   ทางเลือด (เช่น การรับเลือด, การใช้เข็มร่วมกัน)            ส่วนใหญ่มักเป็น เรื้อรัง และเป็นสาเหตุสำคัญของตับแข็งและมะเร็งตับ
D (HDV)   ทางเลือด ต้องติดเชื้อไวรัส B ร่วมด้วยเท่านั้น          ทำให้ตับอักเสบรุนแรงและเรื้อรังกว่าเดิม
E (HEV)   การรับประทานอาหาร/น้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ                  คล้ายไวรัส A มักเป็น เฉียบพลัน แต่เป็นอันตรายต่อสตรีมีครรภ์


2. แอลกอฮอล์ (Alcohol)

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำลายเซลล์ตับโดยตรง ทำให้เกิด ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ (Alcoholic Hepatitis) ซึ่งหากไม่หยุดดื่มจะนำไปสู่ภาวะตับแข็งในที่สุด


3. ยาและสารพิษ (Drug and Toxin Induced Hepatitis)

ตับมีหน้าที่กำจัดสารพิษและยาส่วนใหญ่ในร่างกาย ยาหรือสารบางชนิดอาจเป็นพิษต่อเซลล์ตับได้หากได้รับในปริมาณที่สูงเกินไป หรือใช้ติดต่อกันนาน เช่น:

พาราเซตามอล (Paracetamol/Acetaminophen): หากรับประทานเกินขนาดมาก ๆ จะเป็นพิษต่อตับอย่างรุนแรง

ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะบางประเภท, ยาลดไขมัน, ยาต้านเชื้อรา

สมุนไพร หรืออาหารเสริมบางชนิด: หากมีการปนเปื้อนหรือมีส่วนผสมที่ไม่ปลอดภัย


4. ภาวะไขมันพอกตับ (Non-Alcoholic Fatty Liver Disease - NAFLD)

ภาวะที่มีไขมันสะสมในเซลล์ตับมากเกินไป ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับโรคอ้วน, ภาวะดื้ออินซูลิน, เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง เมื่อภาวะไขมันพอกตับนี้เกิดการอักเสบ จะเรียกว่า ตับอักเสบจากไขมัน (NASH) และสามารถดำเนินไปสู่ภาวะตับแข็งได้


5. ภูมิคุ้มกันทำลายตับตัวเอง (Autoimmune Hepatitis)

เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งแทนที่จะโจมตีเชื้อโรค กลับไป โจมตีและทำลายเซลล์ตับของตัวเอง อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง


6. สาเหตุอื่น ๆ

โรคทางพันธุกรรม: เช่น โรควิลสัน (Wilson's disease) ที่มีการสะสมทองแดงมากผิดปกติในตับ หรือภาวะเหล็กเกิน (Hemochromatosis)

การอุดตันของท่อน้ำดี: ทำให้เกิดภาวะน้ำดีคั่งและตับอักเสบตามมา

2
อาการของโรคมะเร็งทอนซิล (Cancer of tonsil)


มะเร็งทอนซิล พบได้น้อย (ประมาณร้อยละ 0.5 ของมะเร็งทั้งหมด) พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง พบมากในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป ในคนอายุน้อยกว่า 40 ปีพบได้ประปราย ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงข้างเดียว


สาเหตุ

ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งชนิดนี้ ได้แก่

    การสูบบุหรี่ และการเสพยาสูบในรูปแบบอื่น ๆ
    การดื่มสุราจัด
    การติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human papilloma virus/HPV) จากการมีเพศสัมพันธ์โดยทางปาก
    มีการบริโภคสารก่อมะเร็ง เช่น การกินหมาก
    การบริโภคผักและผลไม้น้อย


อาการ

มีอาการเจ็บคอเรื้อรังข้างหนึ่ง อาจเจ็บร้าวไปที่หูข้างเดียวกัน อาจพบมีเลือดปนในน้ำลายหรือเสมหะ มีกลิ่นปากเรื้อรัง กลืนลำบาก พูดเสียงคับปาก หายใจลำบากร่วมด้วย

มักตรวจพบว่าทอนซิลโตข้างหนึ่ง และต่อมน้ำเหลืองใต้คางหรือข้างคอโตจากการแพร่กระจายของมะเร็ง (บางครั้งอาจเป็นอาการที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์)


ภาวะแทรกซ้อน

เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการที่มะเร็งลุกลามไปที่อวัยวะข้างเคียง เช่น โคนลิ้น โพรงไซนัส กระดูกกราม กระดูกใบหน้า

ในระยะท้าย มะเร็งมักแพร่กระจายผ่านเข้ากระแสเลือดไปที่ปอด (เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก), ตับ (เจ็บชายโครงขวา ตาเหลืองตัวเหลือง ท้องมาน), กระดูก (ปวดกระดูก กระดูกพรุน กระดูกหัก ปวดหลัง ไขสันหลังถูกกดทับ)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยโดยการตัดชิ้นเนื้อนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ และใช้กล้องส่องตรวจกล่องเสียง หลอดลมและหลอดอาหาร เพื่อดูว่าการลุกลามของมะเร็งมายังอวัยวะเหล่านี้ จะทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีต่าง ๆ (เช่น เอกซเรย์, อัลตราซาวนด์, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า-MRI, การตรวจเพทสแกน- PET scan เป็นต้น) เพื่อประเมินว่าเป็นมะเร็งระยะใด


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัดร่วมกับรังสีบำบัด บางรายอาจให้เคมีบำบัดร่วมด้วย

ผลการรักษา โดยเฉลี่ยผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปี มากกว่าร้อยละ 60


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการเจ็บคอเรื้อรังข้างหนึ่ง, เจ็บคอร่วมกับเจ็บร้าวไปที่หูข้างเดียวกัน, มีเลือดปนในน้ำลายหรือเสมหะ, มีกลิ่นปากเรื้อรัง กลืนลำบาก หรือพูดเสียงคับปาก, มีก้อนแข็ง (ต่อมน้ำเหลือง) ที่ใต้คางหรือข้างคอ

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งทอนซิล ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งทอนซิลด้วยการปฏิบัติ ดังนี้

    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และการเสพยาสูบทุกรูปแบบ (เช่น การเคี้ยวยาสูบ การสูดยานัตถ์)
    หลีกเลี่ยงการดื่มสุราจัด
    หลีกเลี่ยงการกินหมาก
    ป้องกันไม่ให้ติดเชื้อเอชพีวี ด้วยการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เสรีและไม่ปลอดภัย รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ควรปรึกษาแพทย์ในการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่มีอาการเจ็บคอและทอนซิลโตข้างหนึ่งเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด

2. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี


3
เมนูยำ เมนูสตรีทฟู๊ดทำขายสร้างรายได้ ถูกใจคนชอบรสจัดจ้านมีวัตถุดิบที่หลากหลายให้เลือกสรรมากมาย

เมนูเด็ดที่มักจะนึกถึงเสมอคือยำหรือที่มักเรียกกันว่ายำแบบไทยๆ ยำอัดแน่นไปด้วยรสชาติจัดจ้าน ผสมผสานความเปรี้ยว เผ็ด เค็มและหวานเล็กน้อยได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นหนึ่งในเมนูที่ใครๆก็ติดใจและสดชื่นที่สุดในวัฒนธรรมอาหารอันมีชีวิตชีวาของไทยเมนูยำถือเป็นสตรีทฟู้ดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย เพราะรสชาติจัดจ้าน แซ่บถึงใจและมีวัตถุดิบที่หลากหลายให้เลือกสรรมาก ๆ

ยำไม่ใช่อาหารจานเดียว แต่เป็นสไตล์การปรุงอาหาร คำว่ายำหมายถึงการผสมและมักหมายถึงการผสมวัตถุดิบสดใหม่เข้ากับน้ำสลัดรสชาติเข้มข้นที่ทำจากน้ำมะนาว น้ำปลา พริก น้ำตาลและสมุนไพรความสมดุลของรสชาติเหล่านี้ก่อให้เกิดรสชาติไทยอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างหลงใหล นี่คือเมนูยำยอดฮิตที่มักจะเห็นตามร้านสตรีทฟู้ดหรือรถเข็นยำ:
เมนูยำสตรีทฟู้ดยอดนิยม
ยำวุ้นเส้น : เป็นเมนูคลาสสิกที่คนไทยชื่นชอบ โดยใช้วุ้นเส้นเป็นหลัก ผสมกับหมูสับ/ไก่สับลวก, กุ้ง/ปลาหมึก, ถั่วลิสงคั่ว, มะเขือเทศ, ขึ้นฉ่ายและน้ำยำรสแซ่บ
ยำมาม่า : คล้ายกับยำวุ้นเส้นแต่เปลี่ยนจากวุ้นเส้นเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (มาม่า) ที่ลวกแล้ว ผสมเครื่องยำและวัตถุดิบอื่น ๆ อร่อยถูกใจสายเส้นสุด ๆ
ยำรวมมิตร/ทะเล : เป็นยำที่ใส่โปรตีนหลายชนิดรวมกัน โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น กุ้ง, ปลาหมึก, หอย
ยำหมูยอ : ใช้หมูยอหั่นเป็นชิ้น ๆ เป็นวัตถุดิบหลัก คลุกเคล้ากับน้ำยำ เปรี้ยว เผ็ด หวาน
ยำไข่แดงเค็ม : ใช้ไข่แดงเค็มเป็นวัตถุดิบเด่น ให้รสเค็ม มัน ผสมกับเครื่องยำรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากในช่วงหลัง
ยำไข่ดาว/ไข่ต้ม : เป็นเมนูที่ทำง่าย ๆ แต่แซ่บ โดยใช้ไข่ดาวทอดกรอบ หรือไข่ต้มยางมะตูม/สุก แล้วราดด้วยน้ำยำ
ยำลูกชิ้น : ใช้ลูกชิ้นปลา, ลูกชิ้นเนื้อ, ลูกชิ้นกุ้ง หรือลูกชิ้นต่าง ๆ มายำ

เคล็ดลับความอร่อยของยำสตรีทฟู้ด
จุดเด่นของเมนูยำตามร้านสตรีทฟู้ดคือ น้ำยำ ที่มีรสชาติ เปรี้ยว เผ็ด หวาน เค็ม อย่างกลมกล่อมลงตัว และส่วนใหญ่จะปรับรสชาติความเผ็ดได้ตามใจชอบ ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ทำน้ำยำหลัก ๆ ได้แก่:
พริก (มักใช้พริกขี้หนูสับ)
น้ำปลา
น้ำตาล (น้ำตาลทราย, น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลมะพร้าว)
น้ำมะนาว (มะนาวสด ๆ จะหอมอร่อยที่สุด)
ผักและสมุนไพร เช่น หอมแดงซอย, ขึ้นฉ่าย, ผักชี, มะเขือเทศ, ต้นหอม

ทำไมยำถึงเป็นที่รัก
ความสด:มักมีสมุนไพรสด ผักกรุบกรอบ และอาหารทะเล ทำให้มีน้ำหนักเบาและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
รสชาติที่ระเบิด:ทุกคำมีความสมดุลของพริกเผ็ด มะนาวเปรี้ยว น้ำปลาเค็ม และความหวาน
เสน่ห์ของอาหารริมทาง:ราคาไม่แพง รวดเร็ว และเต็มไปด้วยรสชาติ Yum ถือเป็นร้านอาหารริมทางที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

ลองชิมได้ที่ไหนบ้าง
คุณสามารถพบยำได้ตามตลาดกลางคืน แผงลอยริมทาง หรือร้านอาหารท้องถิ่นเกือบทุกแห่งทั่วประเทศไทย โดยปกติแล้ว Yum จะปรุงตรงหน้าคุณ รับรองความสดใหม่ และคุณสามารถปรับระดับความเผ็ดได้ตามชอบ
นอกจากนี้ ร้านยำบางร้านยังมี เครื่องปรุงเพิ่มเติม ให้เลือกเพิ่มความแซ่บ เช่น ปลาร้า (กลายเป็นเมนู ยำแซ่บนัว หรือ ยำใส่ปลาร้า), น้ำพริกเผา, หรือ ถั่วลิสงคั่ว ถ้าได้ยำรสจัดจ้านสักจาน ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานเล่น ก็อร่อยลงตัวสุดๆ ไปเลย


4
กระตุ้นยอดขายร้านอาหารเพื่อสร้างรายได้ ด้วยการกำหนดราคาส่วนลดเชิงกลยุทธ์ที่กระตุ้นความต้องการของลูกค้า

ร้านอาหารที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน เจ้าของร้านอาหารทุกคนต่างมองหาวิธีสร้างสรรค์ในการเพิ่มยอดขายและดึงดูดลูกค้าให้มากขึ้น หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้ผลที่สุดคือการกำหนดราคาตามส่วนลดซึ่งเป็นวิธีการทางจิตวิทยาที่ใช้ข้อเสนอแบบจำกัดเวลา ข้อเสนอแบบคอมโบหรือส่วนลดแบบขั้นบันไดเพื่อกระตุ้นแรงกระตุ้นการซื้อของลูกค้า เมื่อนำไปใช้อย่างถูกต้อง

การตั้งราคาแบบมีส่วนลดเพื่อกระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้าสำหรับร้านอาหารมีหลายกลยุทธ์ที่ใช้หลักจิตวิทยาในการดึงดูดความสนใจและความรู้สึกคุ้มค่าวิธีการกำหนดราคานี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดราคาเท่านั้น แต่ยังเพิ่มมูลค่าที่รับรู้ กระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

1. จิตวิทยาเบื้องหลังการกำหนดราคาส่วนลด
ส่วนลดสะท้อนจิตวิทยาพฤติกรรมผู้บริโภคโดยตรง มนุษย์เรามักชอบได้ “ข้อเสนอดีๆ” เมื่อเห็นส่วนลด สมองจะรู้สึกอยากซื้อของเร็วๆ และรู้สึกอยากได้รับรางวัล คำอย่างเช่น”มีเวลาจำกัด” “ลด 50%”หรือ”ซื้อ 1 แถม 1″สามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ทันทีว่าได้รับมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเพิ่มโอกาสในการซื้อทันที
ร้านอาหารสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้โดยการสร้างข้อเสนอที่ดึงดูดอารมณ์ความรู้สึก ไม่ใช่แค่เหตุผล ตัวอย่างเช่น การเสนอ”ของหวานฟรีสำหรับคู่รัก”ในวันวาเลนไทน์ หรือ”Happy Hour — เครื่องดื่มลด 30% ตั้งแต่ 17.00-19.00 น.”จะสร้างความตื่นเต้นและความเร่งด่วน

2. ประเภทของกลยุทธ์การลดราคาที่ใช้ได้ผลสำหรับร้านอาหาร
มีรูปแบบส่วนลดหลายรูปแบบที่ร้านอาหารสามารถนำมาใช้ได้ ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายและเป้าหมาย:
ส่วนลดจำกัดเวลา : โปรโมชั่นระยะสั้นกระตุ้นให้ลูกค้ารีบตัดสินใจก่อนที่ข้อเสนอจะหมดอายุ เช่น “เฉพาะสุดสัปดาห์นี้ — ลด 20% สำหรับอาหารทะเลทุกจาน”
ข้อเสนอแบบรวม (ชุดอาหารคอมโบ) : การเสนอชุดอาหารหรือคอมโบ (เช่น เบอร์เกอร์ + เฟรนช์ฟราย + เครื่องดื่ม) ในราคาที่ถูกกว่าการสั่งแยกกัน ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกประหยัดและอิ่มอร่อยมากขึ้น
ส่วนลดสำหรับลูกค้าประจำ : มอบส่วนลดให้กับลูกค้าประจำหลังจากลูกค้ามาใช้บริการหรือสะสมคะแนนครบตามจำนวนที่กำหนด ส่วนลดนี้ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวและเพิ่มการรักษาลูกค้า
ส่วนลดตามฤดูกาลหรือตามกิจกรรม : การจัดเรียงโปรโมชั่นให้ตรงกับวันหยุด เทศกาล หรือกิจกรรมในท้องถิ่นจะช่วยสร้างความเกี่ยวข้องและความตื่นเต้น
ส่วนลดสำหรับการอ้างอิง : กระตุ้นให้ลูกค้านำเพื่อนมาด้วย — “อ้างอิงเพื่อนและรับส่วนลด 10% สำหรับมื้ออาหารครั้งต่อไป”

3. วิธีการตั้งราคาส่วนลดอย่างมีประสิทธิภาพ
การกำหนดระดับส่วนลดที่เหมาะสมต้องอาศัยความสมดุลระหว่างอัตรากำไรและแรงจูงใจของลูกค้าส่วนลดที่น้อยเกินไปอาจไม่ดึงดูดความสนใจ ในขณะที่ส่วนลดที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อกำไรและมูลค่าแบรนด์

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการในการค้นหาสมดุลที่เหมาะสม:
ทราบโครงสร้างต้นทุนของคุณ : คำนวณต้นทุนอาหาร แรงงาน และค่าใช้จ่ายทางธุรกิจเสมอ ก่อนที่จะกำหนดส่วนลด
ใช้ราคาคี่ : ราคาที่ลงท้ายด้วย .99 หรือ .95 มักจะดูน่าสนใจสำหรับลูกค้ามากกว่า (เช่น 199 บาทดูถูกกว่า 200 บาท)
ทดสอบและวิเคราะห์ผลลัพธ์ : ดำเนินการโปรโมชันขนาดเล็กเพื่อวัดผลกระทบต่อยอดขายก่อนที่จะเปิดตัวแคมเปญขนาดใหญ่
สร้างการรับรู้ถึงคุณค่า : แทนที่จะลดราคาลงอย่างมาก ลองพิจารณาเพิ่มสิ่งพิเศษ เช่น เครื่องดื่มหรืออาหารเรียกน้ำย่อยฟรี

4. การส่งเสริมส่วนลดอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนลดจะไม่ได้ผลถ้าลูกค้าไม่รู้ ดังนั้นการโปรโมตจึงสำคัญพอๆ กับราคา ใช้หลายช่องทางเพื่อกระจายข่าวสาร:
การตลาดโซเชียลมีเดีย : แชร์โพสต์หรือรีลที่ดึงดูดสายตาเพื่อเน้นข้อเสนอของคุณบน Facebook, Instagram และ TikTok
แคมเปญอีเมล์และ SMS : ส่งโปรโมชั่นส่วนบุคคลไปยังรายชื่อลูกค้าของคุณ
แอปส่งอาหาร : ร่วมมือกับแพลตฟอร์มเช่น GrabFood หรือ LINE MAN เพื่อแสดงส่วนลดพิเศษในแอป
ป้ายภายในร้าน : ใช้ป้ายแสดงสินค้าที่ชัดเจนและน่าดึงดูดใจใกล้ทางเข้าหรือเคาน์เตอร์เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าที่เดินเข้ามา

5. การสร้างความเร่งด่วนและความพิเศษ
กุญแจสำคัญของการกำหนดราคาส่วนลดที่ประสบความสำเร็จ คือการทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าข้อเสนอนี้พิเศษเฉพาะบุคคลและมีกำหนดเวลาเช่น
“เฉพาะวันนี้เท่านั้น”
“จำกัดเฉพาะ 50 ท่านแรกเท่านั้น”
“ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อก่อน”
อาจผลักดันให้ผู้ซื้อที่ลังเลตัดสินใจซื้อทันที ความรู้สึกขาดแคลนนี้ยิ่งเพิ่มทั้งความต้องการและความตื่นเต้น

6. การติดตามและปรับเปลี่ยนเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
ส่วนลดไม่ควรเป็นกลยุทธ์แบบครั้งเดียว แต่ควรเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ต่อเนื่อง หลังจากแต่ละแคมเปญ ให้ติดตามตัวชี้วัดสำคัญๆ เช่น:

การเติบโตของยอดขายในช่วงโปรโมชั่น
มูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย
ความคิดเห็นและความพึงพอใจของลูกค้า
อัตราการกลับมาเยี่ยมชมซ้ำ
ใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อปรับแต่งโปรโมชันในอนาคต เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะระบุได้ว่าส่วนลดใดสร้างการมีส่วนร่วมได้มากที่สุด และส่วนลดใดส่งผลเสียต่ออัตรากำไร

7. สร้างความภักดีต่อแบรนด์มากกว่าแค่ส่วนลด
แม้ว่าส่วนลดจะดีสำหรับการดึงดูดลูกค้าใหม่ แต่ความภักดีนั้นมาจากคุณภาพประสบการณ์และความสัมพันธ์ที่ ดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อเสนอ โปรโมชั่นทุกรายการสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของร้านอาหารและความคาดหวังของลูกค้า เสิร์ฟอาหารที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ให้บริการที่เป็นมิตร และเปิดกว้างในการติดต่อสื่อสาร สิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนลูกค้าขาประจำให้กลายเป็นลูกค้าประจำที่ภักดีแม้เมื่อส่วนลดหมดลง

ข้อควรระวัง:
คำนวณกำไร: ต้องมั่นใจว่าการลดราคายังคงทำให้ร้านมีกำไร หรือสามารถชดเชยด้วยปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น
ช่วงเวลา: ใช้ส่วนลดเพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงเวลาที่มีลูกค้าน้อย (Off-peak) แทนที่จะเป็นช่วงเวลาปกติ
การใช้ส่วนลดอย่างชาญฉลาดโดยคำนึงถึงหลักจิตวิทยาจะช่วยให้ร้านอาหารเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ลูกค้าก็รู้สึกคุ้มค่าด้วย

การกำหนดราคาส่วนลดเชิงกลยุทธ์ไม่ได้หมายถึงแค่การลดราคาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำความเข้าใจจิตวิทยาของลูกค้าและการสร้างข้อเสนอที่คุ้มค่าและน่าดึงดูดใจ การผสมผสานราคาที่ชาญฉลาด โปรโมชั่นที่น่าสนใจ และคุณภาพที่สม่ำเสมอ จะช่วยให้ร้านอาหารสามารถเพิ่มยอดขายและสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและภักดีได้อย่างมาก

ในโลกแห่งการรับประทานอาหาร การมี “ข้อเสนอพิเศษ” ในจังหวะที่เหมาะสมสามารถทำได้มากกว่าแค่เพิ่มผลกำไรในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนลูกค้าที่แวะมาเป็นครั้งคราวให้กลายมาเป็นลูกค้าประจำตลอดชีวิตได้

 

5
จัดฟันบางนา: ฟันตาย สัญญาณอันตรายของช่องปากที่ไม่ควรมองข้าม

ฟัน เป็นอวัยวะหนึ่งภายในช่องปากของเรา ที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทมาหล่อเลี้ยง โดยเส้นประสาทจะทำหน้าที่รับความรู้สึก เสียวฟัน เจ็บฟัน เส้นเลือดจะนำอาหารมาเลี้ยงฟัน หากเกิดอันตรายกระทบกระแทกกับฟัน หรือมีฟันผุถึงโพรงประสาทฟัน ฟันอาจเกิดการกระทบกระเทือนจนเซลล์ต่างๆ สูญเสียการทำหน้าที่ไปในภาษาทั่วไป เรียก ฟันตาย ซึ่งอาการฟันตายนั้น หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินมาก่อน

แต่อาการฟันตายนั้น ถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อช่องปากมากที่เราไม่ควรมองข้าม โยอาการฟันตายนั้นจะมีอาการที่สักเกตได้คือ ฟันเปลี่ยนสี มีสีที่คล้ำขึ้น มีตุ่มหนองที่เหงือก เหงือกบวมหรือกดเจ็บบริเวณปลายรากฟัน มีอาการบดเคี้ยวแล้วรู้สึกเจ็บ ซึ่งเกิดจากอาการอักเสบรอบปลายรากฟัน และถ้าหากเราเคยมีอาการเสียวฟันมากๆ เมื่อมีสิ่งกระตุ้น เช่น ดื่มน้ำร้อนหรือน้ำเย็น แต่อยู่ๆ ก็ไม่รู้สึก อาจเป็นสัญญาณของฟันตายได้ โดยการรักษาอาการฟันตายอาจจะทำได้ด้วยการรักษารากฟัน หรือบางรายอาจจะต้องเข้ารับการถอนฟัน กรณีที่ฟันซี่นั้นไม่สามารถบูรณะได้ หรือเข้ารับการรักษามีความต้องการที่ถอนฟันซี่นั้น

โดยสาเหตุของการเกิดอาการฟันตายนั้น เกิดได้จาดหลายสาเหตุ แน่นอนว่าสาเหตุแรกและมักพบได้บ่อยเลยก็คือ ฟันผุ จนถึงโพรงประสาทฟันและไม่ได้รับการรักษาทำให้ แบคทีเรียสามารถเข้าไปทำอันตรายต่อเส้นเลือดและเส้นประสาทฟันจนเน่าทำให้ฟันตายได้ หรือฟันอาจจะถูกกระทบกระแทกอย่างแรงจากอุบัติเหตุ แรงที่กระแทกที่ฟันอย่างทันทีและอย่างแรง จะส่งผลให้โพรงประสาทฟันอาจช้ำจนฟันตายได้นั่นเอง

นอกจากนี้ การใช้ฟันผิดประเภท โดยปกติการบดเคี้ยวอาหารธรรมดาทั่วๆ ไปก็ไม่มีปัญหาแต่บางท่านใช้ฟันในการกัดของแข็งมากๆ เช่น ใช้ฟันเปิดฝาขวดเบียร์ กัดเปลือกผลไม้แข็งๆ ใช้ฟันกัดเปลือกปู ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น ทำให้มีโอกาสทำให้ฟันแตกร้าว ทำให้ฟันตายได้ และอาจจะเกิดจากปัญหาฟันที่มีการสบฟันผิดปกติ เช่น ฟันล้ม ฟันเก เวลาสบฟันมีจุดสูงทำให้ฟันกระแทกบริเวณจุดเดิมเป็นประจำ ฟันซี่นั้นได้รับความกระทบกระเทือนอย่างต่อเนื่อง จนมีการเสื่อมสลายของเส้นเลือดและเส้นประสาท ก็ทำให้ฟันตายได้นั่นเอง เพราะฉะนั้น ถ้าหากเรามีความเสี่ยงหรือสังเกตอาการที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีสาเหตุที่เสี่ยงต่อการเกิดฟันได้ก็ควรที่เข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษา เพราะถ้าหากปล่อยไว้ และละเลยสุขภาพช่องปากและฟันของเราแล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหาบริเวณฟันข้างเคียงได้

สำหรับวิธีการรักษาอาการฟันตายนั้น มีความจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษารากฟันหรือไม่ให้ฟันซี่นั้นเป็นแหล่งแพร่เชื้อ เพื่อเก็บฟันซี่นั้นให้ใช้บดเคี้ยวอาหารต่อไปได้ และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงต่อกระดูกรองรับรากฟันและฟันซี่ข้างเคียง แต่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยทำให้ฟันได้รับการกระทบกระแทกอย่างรุนแรง ควรให้ทันตแพทย์ตรวจ X-RAY และวินิจฉัย ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของปัญหาที่จะลุกลามทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา และที่สำคัญมากที่สุดคือ เราควรหมั่นดูแล เอาใจใส่ในเรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยในช่องปากและฟันให้ดี อย่าให้มีเชื้อโรคสะสมด้วยการแปรงฟันให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟันและอมน้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ

อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกอยากให้ทุกคนหันมาดูแลและเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและหันที่ดี เพราะการที่เรามีสุขภาพฟันที่ดี เป็นปัจจัยสำคัญของการที่เราจะมีบุคลิกภาพที่ดี ทำให้เรารู้สึกมั่นใจในการเข้าสังคม พบปะผู้คน และยังทำให้เป็นที่น่าประทับใจอีกด้วย หากใครมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน สามารถขอรับคำแนะนำจากทางคลินิกได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านของการทันตกรรม มีบริการเกี่ยวกับทันตกรรมอย่างครบวงจร ช่วยให้คุณมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน สามารถทำให้คุณได้ใช้ชีวิตประจำวันอย่างเต็มที่

6
จัดฟันบางนา: เผยวิธี จัดฟันแบบใส ให้เหมาะกับคุณ !

การจัดฟันแบบใส เป็นการใส่เครื่องมือจัดฟันที่ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล โดยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งจะทำมาจากพลาสติกที่ผิวเรียบและบาง ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก ไม่ทำให้บาดและทำให้เกิดบาดแผล และยังสามารถมองเห็นได้ยาก ถอดออกง่าย ไม่ต้องใช้แรงเยอะ ทั้งยังเวลารับประทานอาหารหรือการแปรงฟัน ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวว่าเครื่องมือจะเกิดการชำรุด

นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใส ยังใช้ระยะเวลาในการจัดฟันน้อยกว่าการจัดฟันแบบทั่วไปที่ใช้เหล็กจัดฟัน แถมยังทำให้เกิดการระคายเคืองช่องปากและไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย จึงต้องระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันการทำให้เหล็กจัดฟันหลุด สำหรับการจัดฟันแบบใส โดยเครื่องมือการจัดฟันในแต่ละชุดของเครื่องมือจะค่อยๆ จัดเรียงฟันให้เคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ถูกกำหนดไว้ด้วยแรงน้อยๆ ตามแผนการรักษาของทันตแพทย์ผู้ทำการรักษา สำหรับการเคลื่อนตัวของฟันในการจัดฟันแบบใสนั้น จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาการใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสด้วย เพราะการใส่เครื่องมือตามระยะเวลาทีทันตแพทย์กำหนดคือ 20-22 ชั่วโมง จะช่วยให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่กำหนดไว้

ซึ่งการจัดฟันแบบใสนี้มีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ได้แก่ จัดฟันแบบใส invisalign full ซึ่งจะมีเครื่องมือจัดฟันตั้งแต่ 15 ชิ้นขึ้นไป เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษาที่มีสภาพฟันที่ซ้อนเกค่อนข้างมาก มีปัญหาฟันที่ค่อนข้างเยอะ และมีความซับซ้อนในการรักษา โดยใช้ระยะเวลาในการจัดฟันตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ทุกกรณี ต่อมา จัดฟันใส invisalign lite มีเครื่องมือจัดฟัน 7-14 ชิ้น เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษาที่เคยผ่านการจัดฟันมาแล้ว มีสภาพฟันที่มีความซ้อนเกเพียงเล็กน้อย หรือเคยผ่านการจัดฟันมาแล้วแต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ จึงทำให้เกิดฟันห่าง เรียงตัวกันไม่สวยงาม


โดยมีระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 4 เดือน และสุดท้ายการจัดฟันใส invisalugn i7 จะใช้เครื่องมือการจัดฟันเพียง 7 ชิ้น เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษาที่เคยผ่านการจัดฟันมาแล้ว มีสภาพฟันที่มีการซ้อนเกเพียงเล็กน้อย โดยทันตแพทย์จะช่วยรักษา เรียงตัวฟันให้เข้ารูปเป็นปกติและสวยงาม โดยใช้ระยะเวลาในการจัดฟันไม่นานประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น ซึ่งการจัดฟันในรูปแบบต่างๆก็จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์ว่า ผู้เข้ารับการรักษามีปัญหาฟันในด้านใด มีปัญหามากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงระยะเวลาในการรักษาก็จะขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลด้วย นอกจากนี้การดูแลความสะอาดและการมีวินัยในเรื่องของการสวมใส่เครื่องมือก็ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลการรักษาที่ดี และเพื่อทำให้การรักษาเป็นไปตามแผนที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้

อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส จะช่วยสร้างรอยยิ้มให้ผู้เข้ารับการรักษามีความสวยงาม และมั่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ควรปล่อยให้ปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง ทำลายความมั่นใจและบุคลิกภาพของคุณ ซึ่งในปัจจุบัน การจัดฟันแบบใส กำลังเป็นที่นิยมและมีหลายแบบ แต่ผู้เข้ารับการรักษาจะเหมาะกับการจัดฟันแบบใสในรูปแบบใด ก็จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์และสภาพ ปัญหาของผู้เข้ารับการรักษา

นอกจากนี้การจัดฟันแบบใส ยังเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ง่ายต่อการดูแลรักษาสุขอนามัยในช่องปากและฟัน ให้ความรู้สึกสบายไม่ระคายเคืองช่องปาก ไม่ทำให้เกิดบาดแผล เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน ช่วยเสริมบุคลิกและสร้างความมั่นใจ ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ากับยุคสมัย การจัดฟันแบบใสนี้ยังสามารถทำให้ผู้เข้ารับการรักษาเห็นแผนการรักษาเสมือนจริงได้ ด้วยระบบ 3D ที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ก่อนเข้ารับการจัดฟัน จนไปถึงการจัดฟันเสร็จสมบูรณ์ตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์ได้กำหนด และยังได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพฟันอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

7
หมอออนไลน์: ไฟลามทุ่ง (Erysipelas)

ไฟลามทุ่ง (เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นตื้นอักเสบ) เป็นการอักเสบของผิวหนังชั้นหนังแท้และเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นตื้น ๆ รวมทั้งท่อน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เคียง

สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ และสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มอื่น มักพบในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำจากโรค หรือจากยา (เช่น ยาสเตียรอยด์ ยากดภูมิคุ้มกัน) หรือมีภาวะอุดตันของหลอดเลือด หรือท่อน้ำเหลือง หรือเกิดขึ้นในบริเวณที่มีอาการบวมเรื้อรัง หรือมีเนื้อตาย เชื้อจะเข้าทางรอยถลอกหรือรอยแยกของผิวหนัง (เช่น แมลงกัด หนามตำ ผิวหนังมีรอยขีดข่วน หรือฮ่องกงฟุต)

อาการ

มักเกิดขึ้นฉับพลัน แรกเริ่มจะมีไข้สูงหนาวสั่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาจะมีอาการเป็นผื่นแดงสด ต่อมาจะบวมแข็งตึงและผิวมีลักษณะมันคล้ายผิวส้ม ผื่นจะลุกลามขยายออกโดยรอบอย่างรวดเร็ว ผิวหนังในบริเวณนั้นจะนูนเป็นขอบแยกจากผิวหนังที่ปกติอย่างชัดเจน และคลำดูจะออกร้อนกว่าผิวหนังปกติ เมื่อกดตรงบริเวณนั้นสีจะจางลง และมีรอยบุ๋มเล็กน้อย ถ้าเป็นมากอาจมีตุ่มน้ำพอง ในระยะท้ายผื่นจะยุบลง ผิวหนังลอกเป็นขุย และเมื่อหายแล้วจะไม่เป็นแผลเป็น

มักเกิดที่บริเวณหน้า อาจเป็นที่แก้มข้างเดียว หรือ 2 ข้าง บางรายอาจเกิดที่แขนหรือขา

ถ้าเป็นบ่อย ๆ อาจทำให้ท่อน้ำเหลืองเกิดการพองตัวอย่างถาวร ถ้าเป็นที่เท้าหรือขา ทำให้ผิวหนังในบริเวณนั้นมีลักษณะขรุขระ

ไฟลามทุ่ง: รอยโรคที่ผิวมีลักษณะคล้ายผิวส้ม


ภาวะแทรกซ้อน

เชื้ออาจลุกลามเข้าเนื้อเยื่อในชั้นที่อยู่ลึกลงไป ทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงทำให้เนื้อตาย และอาจลุกลามเข้ากระแสเลือดกลายเป็นโลหิตเป็นพิษได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยเบาหวาน กินยาสเตียรอยด์มานาน หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำจากสาเหตุอื่น

ในรายที่เกิดจากเชื้อบีตาฮีโมไลติกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ อาจทำให้เป็นหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้ (มีอาการไข้สูง บวมทั้งตัว ปัสสาวะสีแดง) ซึ่งพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ถ้าจำเป็นแพทย์จะนำหนองจากรอยโรคไปตรวจหาเชื้อ เอกซเรย์ หรือนำเลือดไปเพาะเชื้อในรายที่มีภาวะโลหิตเป็นพิษ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้ผู้ป่วยพักผ่อน พยายามอย่าเคลื่อนไหวส่วนที่อักเสบ ยกแขนหรือขาส่วนที่อักเสบให้สูง และใช้น้ำอุ่นจัด ๆ ประคบ

ผู้ป่วยสามารถกินอาหารได้ตามปกติ ไม่มีของแสลง ควรกินอาหารพวกโปรตีน (เนื้อ นม ไข่) ให้มาก ๆ ให้ยาแก้ปวดลดไข้ ถ้าปวดหรือมีไข้

2. ให้ยาปฏิชีวนะ (เช่น เพนิซิลลินวี, อีริโทรไมซิน, โคอะม็อกซิคลาฟ) ถ้าดีขึ้นให้ยาต่อจนครบ 10 วัน

3. ถ้าไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน หรือมีอาการรุนแรงหรือสงสัยมีภาวะโลหิตเป็นพิษแทรกซ้อน หรือพบในผู้ที่เป็นเบาหวานหรือมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล และให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีด บางรายอาจต้องทำการผ่าตัดระบายหนองหรือตัดเอาเนื้อตายออกไป


การดูแลตนเอง

หากสงสัยเป็นไฟลามทุ่ง (เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นตื้นอักเสบ) ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไฟลามทุ่ง(เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นตื้นอักเสบ) ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีไข้สูง หนาวสั่น ซึม เบื่ออาหาร หรือการอักเสบรุนแรงมากขึ้น
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

เมื่อมีบาดแผล รอยถลอก หรือรอยแตกแยกของผิวหนัง (เช่น แมลงกัด หนามตำ ผิวหนังมีรอยขีดข่วน หรือฮ่องกงฟุต)

    ควรล้างแผลด้วยน้ำสะอาดกับสบู่ทันที เพื่อชะล้างเอาสิ่งสกปรกออกไป
    ทารอบแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดนไอโอดีน
    อย่าให้แผลถูกน้ำ หรือใช้น้ำลาย น้ำหมาก หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ พอกที่แผล
    ควรพักส่วนที่เป็นบาดแผลให้มาก ๆ
    กินอาหารได้ตามปกติ ควรกินอาหารพวกโปรตีน ผักและผลไม้ให้มาก ๆ
    หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในทะเล และระวังไม่ให้แผลถูกน้ำทะเล
    ถ้าบาดแผลสกปรก แผลถูกสัตว์หรือคนกัด ถูกตะปู หรือถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวกพอง หรือพบบาดแผลในผู้ป่วยเบาหวาน เอดส์ โรคตับเรื้อรัง หรือโรคไตเรื้อรัง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสม

ข้อแนะนำ

ผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่แรก หากปล่อยปละละเลยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นเบาหวานหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษเป็นอันตรายได้

8
โพสฟรี ขายในไทย ทุกหมวดหมู่ / Doctor At Home: ฝีดาษลิง (Mpox/Monkeypox)
« เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2025, 16:10:03 น. »
Doctor At Home: ฝีดาษลิง (Mpox/Monkeypox)

ฝีดาษลิง (ฝีดาษวานร ก็เรียก) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบในสัตว์ฟันแทะและลิง* พบในคนครั้งแรกที่ประเทศคองโกในปี 2513 และต่อมาพบระบาดกลายเป็นโรคประจำถิ่นในทวีปแอฟริกา เริ่มพบระบาดไปนอกแอฟริกาเป็นครั้งแรกคือสหรัฐอเมริกาในปี 2546 และในปี 2564 พบผู้ป่วยชาวอเมริกัน 1 รายซึ่งกลับจากการไปท่องเที่ยวที่ประเทศไนจีเรีย นับแต่ปี 2565 เป็นต้นมา พบระบาดในทวีปต่าง ๆ ทั่วโลก**

โรคนี้จะทำให้มีอาการไข้และผื่นตุ่มขึ้น คล้ายโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (smallpox) แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า โดยมีผื่นอยู่นานเป็นสัปดาห์ ๆ ซึ่งจะหายได้เองเป็นส่วนใหญ่

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ ได้แก่ ผู้ที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการระบาด (เช่นในประเทศแถบแอฟริกา), ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ (โดยเฉพาะอย่างกลุ่มชายรักร่วมเพศ ผู้ที่ทำงานด้านบริการทางเพศ ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน), ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดหรืออาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ, ผู้ที่มีโอกาสสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ

*เนื่องจากพบโรคนี้ระบาดในลิงในห้องทดลองเป็นครั้งแรกในปี 2501 จึงได้ชื่อว่า ฝีดาษลิง ซึ่งเดิมใช้ชื่อว่า Monkeypox ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกขอให้ใช้ชื่อว่า Mpox แทน

**เมื่อ 23 กรกฎาคม 2565 องค์การอนามัยโลกประกาศให้การระบาดของโรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก เนื่องจากได้พบผู้ติดเชื้อกว่า 16,000 รายใน 75 ประเทศทั่วโลก ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย หลังจากสถานการณ์ผู้ป่วยเริ่มลดลง ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566 องค์การอนามัยประกาศให้โรคนี้พ้นจากภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ

ในไทยมีรายงานผู้ป่วยรายแรกซึ่งเป็นชาวไนจีเรียที่เดินทางมาที่ภูเก็ตเมื่อ 21 กรกฏาคม 2565 หลังจากนั้นพบมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีรายงาน (เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2566) ว่าพบผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 582 ราย ใน 37 จังหวัดทั่วประเทศ เกือบร้อยละ 60 ของผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชายรักร่วมเพศ ส่วนใหญ่พบในคนอายุ 30-39 ปี รองลงมาคือช่วงอายุ 20-29 ปี อย่างไรก็ตาม โรคนี้พบได้ในคนทุกเพศทุกวัยที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

สาเหตุ

เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม orthopoxvirus* (ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับเชื้อไวรัสโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ) โรคนี้สามารถติดต่อได้ 2 ทาง ได้แก่

1. จากคนสู่คน เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง (ที่มีรอยแยก) เยื่อเมือก (เช่น เยื่อบุตา ช่องปาก คอหอย ช่องคลอด องคชาต ทวารหนัก) หรือทางเดินหายใจ

การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสถูกผื่น ตุ่ม น้ำหนอง แผลที่ผิวหนัง สารคัดหลั่ง (เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ น้ำตา) ของผู้ติดเชื้อ หรือสัมผัสถูกบริเวณทวารหนักหรือช่องคลอดของผู้ติดเชื้อ โดยการสัมผัสอย่างแนบชิด เช่น การนวด การกอด จูบ หรือการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ แต่ก็สามารถพบในคนทั่วไปที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ บางรายอาจเกิดจากการใช้ของร่วมกับผู้ติดเชื้อ เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน หมอน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังพบว่ามีการติดเชื้อจากมารดาสู่ทารกผ่านทางรกขณะอยู่ในครรภ์ หรือจากการสัมผัสใกล้ชิดหลังคลอด

ส่วนการติดเชื้อจากการสูดละอองฝอยที่ผู้ติดเชื้อไอ จาม หรือหายใจรดนั้นพบได้เป็นส่วนน้อย ผู้ป่วยมักต้องมีการสัมผัสแบบตัวต่อตัว (เช่น การพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด) เป็นเวลานาน ๆ

2. จากสัตว์สู่คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากสัตว์ฟันแทะ (เช่น หนู กระรอก กระแต กระต่าย) โดยการสัมผัสถูกเลือด สารคัดหลั่ง ผื่นหรือตุ่มหนองของสัตว์ หรือถูกสัตว์ติดเชื้อกัดหรือข่วน หรือกินเนื้อสัตว์ติดเชื้อที่ปรุงไม่สุก การติดเชื้อจากสัตว์พบได้เป็นส่วนน้อย และมักพบในพื้นที่ที่มีโรคนี้เป็นโรคประจำถิ่น (เช่นแอฟริกา)

ระยะฟักตัว 5-21 วัน

*เชื้อไวรัสฝีดาษลิงที่พบในแอฟริกาแบ่งเป็น 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ชนิดที่ 1 (สายพันธุ์คองโก) และสายพันธุ์ชนิดที่ 2 (สายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก) สายพันธุ์ชนิดที่ 1 พบในแอฟริกากลาง (เช่น คองโก) มีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 10 ส่วนสายพันธุ์ชนิดที่ 2 พบในแอฟริกาตะวันตก (เช่น ไนจีเรีย) และมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ชนิดที่ 1 คือมีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 1-3 การระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกตั้งแต่ปี 2565 เกิดจากสายพันธุ์ชนิดที่ 2


อาการ

ระยะแรก จะมีอาการไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วร่างกาย บางรายอาจมีอาการเจ็บคอ เจ็บทวารหนัก อาเจียน หรือท้องเดินร่วมด้วย

ระยะต่อมา (หลังมีไข้ 1-3 วัน) จะมีผื่นตุ่มขึ้นจำนวนมากตามบริเวณใบหน้าและแขนขา (มากกว่าลำตัว) ซึ่งมักจะขึ้นที่ใบหน้าก่อน แล้วกระจายไปตามแขนขา โดยเริ่มแรกขึ้นเป็นผื่นแดงหรือปื้นนูนแดง ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มน้ำใส ซึ่งอาจรู้สึกปวดเจ็บ แสบร้อน หรือคัน ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มหนอง และกลายเป็นสะเก็ด แล้วในที่สุดก็จะหลุดลอกไป ผื่นตุ่มเหล่านี้จะเป็นอยู่นานประมาณ 2-4 สัปดาห์ (ในรายที่มีภูมิคุ้มกันต่ำอาจนานกว่านี้) หลังตกสะเก็ดอาจเกิดรอยโรคหรือแผลเป็นได้ เนื่องจากผื่นตุ่มของโรคนี้จะกินถึงผิวหนังชั้นลึก

บางรายอาจมีผื่นตุ่มที่บริเวณมือ (รวมทั้งฝ่ามือ) เท้า (รวมทั้งฝ่าเท้า) เยื่อบุในช่องปาก คอหอย อวัยวะเพศ เยื่อบุตาขาว และกระจกตาได้

บางรายอาจมีอาการต่างไปจากลักษณะที่พบในผู้ป่วยส่วนใหญ่ดังกล่าวข้างต้น เช่น มีเพียงไข้ต่ำ ๆ หรือมีผื่นตุ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย หรือมีอาการผื่นขึ้นก่อนหรือพร้อมกับอาการอื่น ๆ ไม่มีอาการต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งอาจทำให้คิดว่าไม่ใช่โรคฝีดาษลิง และละเลยการป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น


ภาวะแทรกซ้อน

เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น ผู้ป่วยเอดส์) มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน อาทิ

    คออักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงจนทำให้กลืนลำบาก
    ทวารหนักอักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงจนทำให้ถ่ายอุจจาระลำบาก
    ผื่นตุ่มที่ผิวหนังเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
    ภาวะโลหิตเป็นพิษจากเชื้อเข้ากระแสโลหิต 
    การติดเชื้อที่กระจกตา ซึ่งอาจรุนแรงทำให้ตาบอดได้
    ปอดอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ สมองอักเสบ
    หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคฝีดาษลิง อาจทำให้ทารกตายในครรภ์ แท้งบุตร ทารกคลอดก่อนกำหนด


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ไข้ มากกว่า 38 องศาเซลเซียส

ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สังเกตได้ของโรคนี้ สามารถเกิดขึ้นได้ตามจุดต่าง ๆ ที่สัมผัสโรค เช่น คอ ไหปลาร้า รักแร้ ข้อศอก เป็นต้น

ผื่นแดง ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตามใบหน้า แขนขา ฝ่ามือ ฝ่าเท้า

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตรวจหาสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ของเชื้อจากน้ำหรือหนองจากตุ่มที่ผิวหนังด้วยเทคนิค polymerase chain reaction (PCR) ในกรณีที่ไม่พบผื่นตุ่มที่ผิวหนัง จะตรวจจากสารคัดหลั่งในลำคอ หรือทวารหนัก ซึ่งเก็บตัวอย่างโดยการใช้ไม้ป้ายคอหอย (oropharyngeal swab) หรือไม้ป้ายทวารหนัก (anal/rectal swab)


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาโรคนี้ ดังนี้

    ในรายที่อาการไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ (พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน) ยาแก้คัน (เช่น ยาแก้แพ้ คาลาไมน์โลชั่น), ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำในรายที่กินไม่ได้หรือมีภาวะขาดน้ำ, ให้ยาปฏิชีวนะในรายที่ผื่นตุ่มมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เป็นต้น
    ในรายที่มีอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แพทย์จะรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล และให้การรักษาภาวะผิดปกติที่พบ (เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ)

ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงบางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีโรคประจำตัว แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัส ได้แก่ tecovirimat (หรือ TPOXX) ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาโรคไข้ทรพิษ

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักจะหายได้ภายใน 2-4 สัปดาห์โดยการรักษาตามอาการ ส่วนผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็มักจะหายได้เป็นปกติ มีส่วนน้อยที่อาจมีความพิการ (เช่น ในรายที่เป็นสมองอักเสบที่รุนแรง) หรือเสียชีวิต


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตุ่มขึ้นตามผิวหนัง และมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยฝีดาษลิง ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคฝีดาษลิง ควรดูแลตนเองดังนี้

    รักษาและปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำ และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    แยกตัวออกจากผู้อื่นทันที แยกห้องนอน ห้องน้ำ แยกของใช้ และงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะตกสะเก็ด (ระยะที่เป็นตุ่มน้ำใส และตุ่มหนอง สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้)
    สวมหน้ากากอนามัย ถ้ามีคนอื่นอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
    หมั่นล้างมือบ่อย ๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนหรือหลังสัมผัสผื่นตุ่ม)
    กินอาหารสุขภาพ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมาก ๆ 
    ถ้ามีแผลในปาก ให้ใช้น้ำเกลือกลั้วปากวันละ 4 ครั้ง
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสวัตถุหรือพื้นผิวที่ผู้อื่นใช้ร่วม เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ รีโมตทีวี เป็นต้น หากเลี่ยงไม่ได้ หลังสัมผัส ควรใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดทันที
    ตัดเล็บให้สั้น และห้ามแคะ แกะ เกาผื่นหรือตุ่ม เพราะการแคะ แกะ เกาอาจทำให้ผื่นตุ่มหายช้า แพร่กระจายผื่นตุ่มไปยังบริเวณอื่นของร่างกาย อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน และกลายเป็นแผลเป็นได้

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีอาการผิดปกติ (เช่น เจ็บหน้าอกมาก หอบหรือหายใจลำบาก รู้สึกเหนื่อยง่าย ซึมมาก ไม่ค่อยรู้สึกตัว ชัก แขนขาอ่อนแรง ปวดศีรษะมาก อาเจียน กินไม่ได้ แผลเป็นหนองหรือสงสัยว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน) หรือมีอาการที่สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (เช่น อยู่ในบ้านเดียวกัน เป็นสามีภรรยาหรือมีเพศสัมพันธ์กัน มีการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด) ควรสังเกตอาการของตนเอง และแยกตัวเองออกจากผู้อื่น หากมีอาการผิดสังเกต ควรไปปรึกษาแพทย์โดยเร็ว


การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย และไม่นำมือไปสัมผัสผื่น ตุ่ม หนอง ของผู้ติดเชื้อ
    ออกห่างจากผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย แยกห้องนอน ห้องน้ำ แยกของใช้ และงดการมีเพศสัมพันธ์กับคนเหล่านี้
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์หรือสารคัดหลั่งของสัตว์ที่อาจเป็นพาหะ (เช่น สัตว์ฟันแทะ ลิง) ไม่กินเนื้อสัตว์ไม่ปรุงสุก
    ในช่วงที่มีการระบาด หมั่นสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก และไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น


ข้อแนะนำ

1. ฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่นในแถบแอฟริกามานาน แต่เพิ่งมีการระบาดไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยเมื่อปี 2565 ดังนั้น หากมีไข้ และผื่นตุ่มขึ้นตามตัว นอกจากมีสาเหตุจากอีสุกอีใส โรคมือ เท้า ปาก เริม งูสวัดแล้ว ก็ควรนึกว่าอาจเกิดจากโรคฝีดาษลิงนี้ก็ได้ (ตรวจอาการ "ไข้ร่วมกับมีผื่นหรือตุ่มขึ้น" เพิ่มเติม)

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคฝีดาษลิงจะมีผื่น ตุ่มน้ำใส และตุ่มหนองขึ้นกระจายไปทั่วร่างกายในลักษณะแบบเดียวกับอีสุกอีใส ต่างกันตรงที่ฝีดาษลิงจะมีต่อมน้ำเหลืองโตตามคอ ไหปลาร้า รักแร้ ข้อศอก ซึ่งมักไม่พบในอีสุกอีใส ส่วนอีสุกอีใสมักจะติดต่อกันได้ง่ายกว่าฝีดาษลิง อย่างไรก็ตาม หากพบอาการไข้และผื่นตุ่มขึ้นในกลุ่มชายรักร่วมเพศ หรือผู้ที่มีประวัติสัมผัสโรคฝีดาษลิง ควรสงสัยว่าเป็นฝีดาษลิงมากกว่าอีสุกอีใส ซึ่งควรให้แพทย์วินิจฉัยโดยเร็ว

2. โรคนี้เกิดจากการสัมผัสแบบแนบชิดกันเป็นหลัก ซึ่งพบในกลุ่มเสี่ยงบางกลุ่ม (เช่น กลุ่มชายรักร่วมเพศ ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่อยู่ในบ้านด้วยกัน) ไม่ได้แพร่ในที่สาธารณะอย่างกว้างขวางเช่นโรคโควิด-19 สามารถป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

3. สำหรับผู้ที่มีประวัติติดโรคฝีดาษลิงจากการมีเพศสัมพันธ์ แพทย์จะทำการตรวจว่ามีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่น (เช่น เอชไอวี ซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม) ร่วมด้วยหรือไม่ หากพบก็จะให้การรักษาควบคู่ไปด้วย

4. ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง ซึ่งมีใช้ในประเทศที่มีการระบาดของโรคนี้อย่างรุนแรง สำหรับบ้านเรา เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ถือเป็นการระบาด จึงยังไม่มีวัคซีนชนิดนี้

ผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษมาก่อน จะมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยปัองกันโรคฝีดาษลิง และมีความเสี่ยงต่อการติดโรคฝีดาษลิงน้อยกว่าผู้ที่ไม่เคยปลูกฝี ในบ้านเราการปลูกฝีได้ยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2517 เนื่องจากโรคฝีดาษถูกกำจัดหมดไปจากโลก

9
รถรับจ้างใกล้ฉัน นครสวรรค์ เลือกคันที่ใช่ กระบะ 4-6-10 ล้อรับจ้าง ให้ตรงใจ ราคาเป็นกันเอง

ในยุคที่การเดินทางและการขนส่งเป็นเรื่องสำคัญ รถรับจ้างนครสวรรค์ จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการ การเลือกใช้บริการรถรับจ้างที่มีความหลากหลาย เช่น กระบะ รถ 4 ล้อใหญ่ รถ 6 ล้อรับจ้าง รถ 10 ล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบ และรถเทรลเลอร์รับจ้าง คุณสามารถเลือกคันที่เหมาะสมกับความต้องการและขนาดของงานได้เลยค่ะ ราคาเป็นกันเองยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้การใช้ บริการรถรับจ้างนครสวรรค์ กลายเป็นที่นิยม เพราะเราตระหนักดีว่าความสะดวกสบายไม่ควรต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป จึงมีตัวเลือกมากมายให้คุณสามารถเลือกรถรับจ้างที่ตรงใจ พร้อมการบริการที่ประทับใจ ซึ่งจะทำให้ทุกการขนส่งของคุณเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะมีงานเล็กหรืองานใหญ่ รถรับจ้างนครสวรรค์ ยินดีที่จะให้บริการคุณอย่างเต็มที่ค่ะ

   
รถรับจ้างนครสวรรค์

การเลือกใช้รถรับจ้างที่มีหลากหลายประเภทยังช่วยให้คุณสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น โดยการเลือกขนาดและประเภทของรถให้เหมาะสมกับปริมาณและประเภทของสินค้าหรือของใช้ที่ต้องการขน ตัวอย่างเช่น หากคุณมีของไม่มากและต้องการความคล่องตัว รถกระบะ รถ 4 ล้อใหญ่ อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการขนส่งสินค้าหรือของใช้ที่มีปริมาณมากๆ รถ 6 รับจ้าง หรือ รถ 10 ล้อรับจ้าง จะช่วยให้การขนส่งเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นค่ะ บริการที่เป็นกันเองและมืออาชีพของ รถรับจ้างนครสวรรค์ ยังมาพร้อมกับการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าอย่างใกล้ชิด ทีมงานมีความเชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำในการเลือกประเภทและขนาดของรถที่เหมาะสม รวมถึงการจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นในการขนส่ง

   
รถรับจ้างนครสวรรค์ ราคาถูก

รถรับจ้างนครสวรรค์ ไม่เพียงแต่เป็นตัวช่วยที่สะดวกในการขนย้ายของ แต่ยังมอบความรู้สึกที่มั่นใจและสบายใจในเรื่องค่าใช้จ่าย ด้วยราคาที่เป็นกันเอง ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการเสริมอื่นๆได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณ จึงสามารถวางแผนการขนส่งได้อย่างสบายใจ รถรับจ้างนครสวรรค์ ราคาถูก มีราคาเข้าถึงได้ ช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณ เมื่อคุณไม่ต้องเครียดกับค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป คุณก็จะมีเวลาไปทำอย่างอื่น เช่น การทำงาน การเรียน หรือแม้แต่การใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูง โดยที่คุณสามารถมอบหน้าที่การขนส่งให้กับทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะทำให้คุณมีเวลามากขึ้นค่ะ

   
รถรับจ้างขนย้ายบ้านนครสวรรค์ ใกล้ฉัน

ความไม่แน่นอนในชีวิตคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งรวมถึงการย้ายที่อยู่ที่อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว คุณอาจจะได้รับโอกาสในการทำงานในที่ใหม่ การศึกษาในสถานที่ต่าง ๆ หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลง ในสถานการณ์ส่วนตัวที่ทำให้ต้องย้ายบ้านอย่างกระทันหัน ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเหล่านี้ การมี บริการรถรับจ้างขนย้ายบ้านนครสวรรค์ ใกล้ฉัน สามารถเป็นตัวช่วยที่สำคัญและมีค่าอย่างมาก การย้ายบ้านอาจจะเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากและเครียด โดยเฉพาะเมื่อมีของใช้และสัมภาระมากมายที่ต้องจัดการ การเลือกใช้บริการรถรับจ้างที่มีความสะดวกสบายและเชื่อถือได้ จะช่วยให้การขนย้ายเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้นค่ะ

   
รถรับจ้างขนต้นไม้นครสวรรค์ ราคาถูก

สำหรับคนที่รักต้นไม้ การมีโอกาสได้พบกับต้นไม้ที่ชื่นชอบ เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและมีความสุข แต่ในขณะเดียวกัน การขนย้ายต้นไม้ไปยังสถานที่ใหม่อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวล รถรับจ้างขนต้นไม้นครสวรรค์ ราคาถูก จึงกลายเป็นตัวเลือกที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถขนย้ายต้นไม้ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย การขนย้ายต้นไม้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น ขนาดและน้ำหนักของต้นไม้ การรักษารากให้ไม่เสียหาย และการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม การเลือกใช้บริการรถรับจ้างที่มีความเชี่ยวชาญในการขนย้ายต้นไม้ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าต้นไม้ของคุณจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดในระหว่างการขนส่ง พร้อมบริการด้วยราคาที่ถูกและการบริการที่ตอบโจทย์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายค่ะ

   
รถรับจ้างย้ายไซต์งานนครสวรรค์ ไปต่างจังหวัด

การย้ายไซต์งานก่อสร้างนั้นเป็นงานที่ท้าทาย เนื่องจากของที่ต้องย้ายงส่วนใหญ่ล้วนเป็นของหนัก เช่น เครื่องมือก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในกระบวนการก่อสร้าง เพื่อให้การขนย้ายเป็นไปอย่างปลอดภัย การเลือกใช้รถที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ รถที่เหมาะสำหรับการย้ายไซต์งานก่อสร้าง

    รถกระบะ : สำหรับการขนย้ายอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดเล็กหรือวัสดุที่ไม่หนักมาก รถกระบะ อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมีความคล่องตัวและสามารถเข้าถึงสถานที่ที่แคบได้ง่าย
    รถ 6 ล้อรับจ้าง : รถประเภทนี้เป็นตัวเลือกสำหรับการขนย้ายวัสดุและอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมาก สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี เหมาะสำหรับการขนส่งวัสดุก่อสร้าง เช่น วัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ต่าง ๆ เครื่องจักรที่น้ำหนักไม่เกิน 7 ตัน
    รถ 10 ล้อรับจ้าง : ความสามารถในการบรรทุกของหนักได้มากถึง 15 ตัน รถประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับการขนส่งอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น เครื่องจักรสำหรับก่อสร้าง หรือวัสดุที่ต้องการพื้นที่เยอะๆ
    รถเครนหรือรถเฮี๊ยบ : ในบางกรณีที่มีการขนย้ายวัสดุหรือเครื่องจักรที่มีน้ำหนักมากและต้องการการยกสูง รถเครนจะเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากสามารถช่วยในการยกและขนส่งวัสดุไปยังจุดที่ต้องการได้อย่างปลอดภัย

10
ทางเลือกเรื่องขนย้าย ที่ใครๆ ก็เลือกใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายบ้าน

เมื่อพูดถึงการย้ายสิ่งของ ไม่ว่าจะย้ายบ้าน ย้ายหอ ข้างของเครื่องใช้ หรือแม้แต่ขนย้ายสินค้าขนาดใหญ่ ล้วนเป็นภารกิจที่หลายคนต้องเจอในชีวิต บางคนอาจมองว่ายกของเองก็ได้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับพบว่าเหนื่อยและยุ่งยากเกินกว่าที่คิด จึงไม่แปลกใจเลย ที่บริการขนย้ายมืออาชีพ ได้กลายเป็นทางเลือกอันดับหนึ่งที่ใครๆ ก็ไว้วางใจ แล้วเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้ บริการรถรับจ้าง เหล่านี้เป็นที่นิยม? ลองมาดูกับ รถรับจ้างภูเก็ต กันเลยค่ะ

1. สะดวกและรวดเร็ว ประหยัดเวลา

ทุกวันนี้ เทคโนโลยี ช่วยให้การดำเนินชีวิตง่ายขึ้นมาก การจอง บริการรถรับจ้าง ก็เช่นเดียวกันค่ะ แค่โทรหรือจองคิวผ่านแอปพลิเคชันหรือไลน์ ทุกอย่างก็พร้อมให้คุณทันที รถรับจ้างภูเก็ต ของเราก็เช่นกัน ทีมงานมาถึงตรงเวลา จัดการยก ย้าย ขนของขึ้นรถ จัดวางอย่างปลอดภัย และขนไปส่งจุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องให้เจ้าของของลำบากยกให้เมื่อย หรือเสียเวลาทั้งวันไปกับการจัดการเอง


2. ปลอดภัยกว่า ไม่เสี่ยงของเสียหาย

ทีมงานมืออาชีพแน่นอนว่ามีเทคนิคการยก การห่อ การจัดวางของในรถอย่างถูกวิธี ใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ผ้าห่มกันรอย เชือกมัดของ รางเลื่อน และลิฟต์ขนของ เพื่อป้องกันความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือของแตกง่าย ก็ทำให้การขนย้ายปลอดภัยกว่าการขนย้ายเองแน่นอน


3. มีตัวเลือกหลากหลาย ตรงตามความต้องการ

บริการขนย้ายยุคนี้ไม่ได้มีแค่ รถกระบะรับจ้าง เท่านั้น แต่ยังมีให้เลือกตั้งแต่ รถสี่ล้อใหญ่ รถหกล้อ รถสิบล้อ รถเทรลเลอร์ ไปจนถึง รถเฮี๊ยบรับจ้าง สำหรับยกของหนักพิเศษ เลือกได้ตามขนาดและประเภทของที่ต้องการขนย้ายได้เลยค่ะ


4. ราคาชัดเจน ตรวจสอบได้ ไม่มีบวกเพิ่ม

หลายๆ บริษัทให้บริการขนย้าย มีการแจ้งราคาเบื้องต้นให้ลูกค้าทราบก่อน พร้อมประเมินหน้างานหากของเยอะหรือต้องการบริการเสริม รถรับจ้างภูเก็ต ของเราเชื่อว่า ลูกค้าสบายใจได้ว่าไม่มีบวกเพิ่มเกินจริง ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอย่างแน่นอน


5. เหมาะกับทุกสถานการณ์

ไม่ว่าคุณจะย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ย้ายสำนักงาน ย้ายโกดัง หรือแม้แต่ขนส่งสินค้าตามออเดอร์ ลูกค้าก็สามารถเลือกใช้บริการได้ บางแห่งยังมีบริการด่วนพิเศษ เรียกรถได้แม้ในช่วงเวลา นอกเวลา หรือเช้ามืด หรือเวลากลางคืนค่ะ


ทำไมใครๆ ก็เลือกใช้บริการขนย้ายมืออาชีพ?

เพราะนอกจากความสะดวกแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยง ทั้งเรื่องความปลอดภัยของคนและสิ่งของ และที่สำคัญคือ ความอุ่นใจ ที่รู้ว่าของจะไปถึงที่หมายครบถ้วนในสภาพดี โดยที่ไม่ต้องเหนื่อยเอง ไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดระหว่างทางด้วยค่ะ ในยุคนี้ การขนย้ายไม่ใช่เรื่องยากเหมือนเมื่อก่อน ทางเลือกที่ใครๆ ก็เลือกใช้ คือการจ้างบริการขนย้ายมืออาชีพ เพราะคุ้มค่า สะดวก ปลอดภัย และประหยัดเวลา เมื่อถึงเวลาที่ต้องขนย้าย อย่าลืมวางแผนและเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้การขนย้ายของคุณเป็นเรื่องง่ายและสบายใจทุกขั้นตอน

รถรับจ้างภูเก็ต พร้อมให้บริการ

หากพูดถึงทางเลือกเรื่องขนย้ายในจังหวัดภูเก็ตที่ใครๆ ก็เลือกใช้ รถรับจ้างภูเก็ต ผู้ให้บริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะย้ายบ้าน ย้ายคอนโด ย้ายหอพัก ขนย้ายสำนักงาน หรือขนของไปต่างอำเภอในภูเก็ตและใกล้เคียง ขนส่ง มีรถให้เลือกครบทุกประเภท ทั้ง รถกระบะ รถสี่ล้อใหญ่ รถหกล้อ รถสิบล้อ ไปจนถึง รถเฮี๊ยบ สำหรับขนยกของชิ้นใหญ่

จุดเด่นของขนส่ง :

    บริการรวดเร็ว ตรงเวลา
    ทีมงานขนย้ายมืออาชีพ ระวังของ ปลอดภัยทุกขั้นตอน
    ราคาเป็นกันเอง ตกลงราคาก่อน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง
    มีรถให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับของทุกขนาด
    บริการทั่วภูเก็ตและส่งของไปต่างจังหวัดได้

ไม่ว่าคุณจะต้องขนย้ายเมื่อไหร่ แค่โทรหา รถรับจ้างภูเก็ต ความยุ่งยากก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที เมื่อต้องการขนย้ายของ ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ เมื่อเลือกใช้บริการรถรับจ้างที่เชื่อถือได้ จะช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น รถรับจ้างภูเก็ต คือหนึ่งในตัวเลือกที่คนภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียงไว้วางใจ เพราะเขาไม่ได้แค่ขนของ แต่ขนความห่วงใยและใส่ใจไปกับทุกเที่ยวขนย้ายค่ะ

11
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ส่งผลกระทบต่อการรับประทานอาหารอย่างไรบ้าง

การจัดฟันแบบใส ถือเป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ของวงการทันตกรรม เป็นการรักษาที่มีการวางแผนการรักษาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้มีผลการรักษาที่มีความแม่นยำ และผู้เข้ารับการรักาสามารถเห็นการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันได้อย่างชัดเจน ด้วยความทันสมัยในการรักษา ทำให้การจัดฟันแบบใสเป็นที่ให้ความสนใจต่อคนทั่วโลก และเป้นการจัดฟันที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะเครื่องมือการจัดฟันที่สามารถถอดออกได้ตามความต้อการของเรา หรือตอนรับประทานอาหารและขณะทำความสะอาดช่องปากและฟัน

จึงทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันไม่ว่าจะจัดฟันในรูปแบบใด ส่วนใหญ่มักจะพบเจอปัญหาขณะรับประทานอาหาร นั่นก็คือ สามารถรับประทานอาหารได้ไม่สะดวก ไม่หลากหลาย เวลาที่จะต้องรับประทานก็จะต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีความอ่อน นุ่ม หรือเลือกรับประทานอาหารที่เราสามารถรับประทานได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องมือการจัดฟัน ซึ่งหลายคนมีปัญหานี้และมักจะเป็นอุปสรรคที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพูดจา การยิ้มแย้ม การรับประทานอาหาร รวมไปถึงเรื่องของบุคลิกภาพ ที่อาจจะทำให้เกิดความไม่มั่นใจได้ ดังนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแบบใส ที่หลายคนอาจจะสงสัยถึงผลกระทบต่อการรับประทานอาหารของผู้เข้ารับการจัดฟัน

ต้องอธิบายก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟัน แน่นอนว่าหลายคนเกิดความกังวลว่าจะไม่สามารถรับประทานอาหารที่ตัวเองชอบได้อย่างเต็มที่ และถ้าหากจะต้องรับประทานอาหารในขณะะที่มีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก แน่นอนว่าไม่มีใครรู้สึกดี โดยเฉพาะคนที่มีพฤติกรรมชอบรับประทานอาหารหลากหลาย หรือที่เราเรียกว่า สายกิน สายเที่ยว ก็อยากมีไลพ์สไตล์ที่อิสระ ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันแบบใสนั้น เป็นวิธีการรักษาที่ตอบโจทย์กลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะการจัดฟันแบบใส ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย


โดยไม่มีอุปสรรคหรือที่เราเรียกว่า เครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก เพราะเครื่องมือการจัดฟันของเราสามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหาร แต่ถ้าหากผู้เข้ารับการจัดฟัน เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ที่ดีต่อสุขภาพช่องปากและฟัน ก็ถือว่าเป้นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาช่องปากและฟันได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผู้เข้ารับการจัดฟัน จะสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย แต่เราก็ต้องถอดเครื่องมือการจัดฟันออกให้เรียบร้อย เพื่อที่จะไม่ให้เครื่องมือการจัดฟันเกิดความเสียหาย แต่ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการจัดฟันก็ต้องสวมใส่เครื่องมือในการจัดฟันแบบใส ตามที่ทันตแพทย์แนะนำด้วย นั่นก็คือ ควรสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสอย่างน้อยวันละ 22 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องมือการจัดฟัน ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามแผนการรักษาที่ทันตแพทย์วางไว้ เพ่อที่จะได้มีผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ

อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าจะไม่มีผลกระทบมากต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เราก็ควรที่จะคำนึงถึงความสะอดาให้มากเป็นพิเศษ ควรที่จะแปรงฟันและทำความสะอาดเครื่องมือการจัดฟันให้มีความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้พร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพของเราด้วย ทั้งนี้ หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส

สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใส รวมไปถึงการรักษาทางทันตกรรมรูปแบบอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียม การจัดฟันในเด็ก ซึ่งทางเรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน แต่สำหรับการจัดฟันแบบใส ทางคลินิกเราได้รับการรับรองจาก Invisalign ให้สามารถให้บริการจัดฟันแบบใสได้อย่างมีมาตรฐานสากล ทำให้มีความน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยแก่ผู้เข้ารับการรักษา ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามั่นใจได้ว่า คุณจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีฟันที่เรียงตัวกันสวยงามได้อย่างแน่นอน

12
จัดฟันบางนา: อายุมาก สามารถจัดฟันแบบใสได้ไหม
 
การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ถือว่าเป็นนวัตกรรมการจัดฟันแบบใหม่ ที่เน้นความสวยงามของฟันเป็นหลัก เพราะเครื่องมือที่ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องสวมใส่ มีความโปร่งใส ทำให้คนอื่นมองแทบไม่ออกว่าเรากำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ โดยเครื่องมือการจัดฟันแบบใส จะสามารถช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน เป็นเครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดใส่ได้ง่ายและสะดวก ไม่ต้องทนเจ็บจากเครื่องมือแบบติดแน่น เพราะปัญหาของผู้เข้ารับการจัดฟันส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันในรูปแบบใด ปัญหาที่มักพบได้บ่อยคือ การเกิดแผลภายในช่องปาก


เนื่องจากเครื่องมือที่สวมใส่ อาจจะทำให้รู้สึกระคายเคืองช่องปาก จนทำให้เกิดบาดแผล ส่งผลทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด รับประทานอาหารได้น้อยลง ในเรื่องของการจัดฟัน ซึ่งต้องบอกว่า ได้รับความนิยมมากในกลุ่มของวัยรุ่น หลายคนมีความคิดที่ว่า การจัดฟันเหมาะสำหรับเด็กเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นความคิดที่ผิด เพราะการจัดฟันสามารถจัดได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่การจัดฟันจะมีประสิทธิภาพในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่


เพราะเด็กยังมีการเจริญเติบโต ซึ่งแก้ไขได้ง่ายกว่า ไม่ซับซ้อน แต่การจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าจะมีอายุมาก ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันแบบใสได้ และมีประสิทธิภาพเช่นเดียว ซึ่งใครหลายคนที่กำลังคิดหรือสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส อาจจะกังวลในเรื่องของอายุ เพราะการจัดฟันแบบใส มีค่าใช้จ่ายที่สูง  แน่นอนว่าถ้าหากเข้ารับการจัดฟันแบบใส และไม่ได้ผลก็อาจจะทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุ และยังเสียเวลาอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของอายุกับการเข้ารับการจัดฟันแบบใส
 
สำหรับเรื่องของอายุกับการเข้ารับการจัดฟันนั้น ต้องบอกก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟันไม่ว่ารูปแบบใด สามารถทำได้ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงอายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากร่างกายกำลังเจริญเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ง่ายเป็นประโยชน์ต่อการจัดฟัน แต่หากอายุมากแล้วหรือประมาณ 30 ปีขึ้นไป อาจต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันที่นานกว่าปกติ

การเข้ารับการจัดฟันแบบใสก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงควรรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีและปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับการจัดฟัน สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 30-50 ปี หากมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการจัดฟัน เช่น มีฟันหน้าห่าง ฟันซ้อน ฟันยื่น ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ หากมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีระเบียบวินัยนการสวมใส่เครื่องมือ และมีความพร้อม ที่จะให้ความร่วมมือในการรักษาก็สามารถทำได้ โดยไม่มีข้อจำกัด

ดังนั้น การจัดฟันสามารถทำได้เกือบทุกช่วงอายุ เพราะอายุไม่ใช่ข้อห้ามของการจัดฟัน แต่ในเรื่องของสุขภาพของช่องปากและฟันต่างหาก ที่อาจจะเป็นข้อห้าม สำหรับการจัดฟันในผู้ใหญ่ นอกจากนี้ ภายหลังการจัดฟัน ผู้เข้ารับการจัดฟันควรดูแลตนเองด้วยการรักษาความสะอาดของฟันและเครื่องมือจัดฟัน ควร ทำความสะอาดภายหลังรับประทานอาหารทุกมื้อและก่อนเข้านอน รักษาเครื่องมือจัดฟันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ให้หลุดหักหรือบิดเบี้ยว ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งและเหนียว และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะได้มีผลการรักษาที่ดี เป็นไปตามที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้

สำหรับใครที่สนใจอยากเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกของเรา เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันและการทันตกรรมอื่นๆ ทั้งยัง ได้รับการรับรองสูงสุดจาก Invisalign ให้สามารถให้บริการการจัดฟันแบบใสได้อย่างปลอดภัย ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีความมั่นใจว่า เมื่อเข้ารับการรักษากับทางคลินิก แล้วจะมีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงจะมั่นใจได้ว่าคุณจะมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามและมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี รวมไปถึงสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติด้วย เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีรอยยิ้มที่มั่นใจ สดใส และทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันทุกคนที่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

13
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


14
จะย้ายของไปไหนไปกับ รถรับบจ้างจังหวัดเชียงใหม่ 6ล้อ 10ล้อ รถกระบะรับจ้าง ทั่วไทย

ถ้าหากคุณอยากจะให้ รถรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ ไปส่งยังจังหวัดต่างๆหรือจังหวัดอื่น ๆก็สบายมากหายห่วง เพราะพนักงานของเรามีความชำนาญเส้นทางทั้งในและต่างจังหวัดเป็นอย่างดี นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้บริการรถเที่ยวกลับได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยประหยัดและมีราคาถูกลงได้อีก การวางแผนจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก รถรับจ้างขนย้ายจังหวัดเชียงใหม่ ยินดีให้คำแนะนำทุกรายการประหยัดเงินประหยัดเวลากับ แน่นอนกับเราทั้ง รถรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่รถ6ล้อรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่รถ10ล้อรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ รถกระบะรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ รถเฮียบรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น หากคุณอยากจะย้ายของอะไร สินค้านั้นจะมากหรือน้อย จะย้ายบ้าน ย้ายสินค้าการเกษตร ย้ายวัสดุก่อสร้าง ย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือสินค้าอะไรก็ตามแต่ เรายินดีให้บริการทั้งหมด

รถรับจ้างขนของเชียงใหม่ มีราคาไม่แพงและทำงานกันอย่างเร็วเพราะเวลาของคุณนั้นมีค่า ทางรถรับจ้างขนของจังหวัดเชียงใหม่ จะไม่ทำงานแบบอืดอาด เพราะนอกจากจะทำให้งานล่าช้าแล้ว ยังทำให้ลูกค้าไม่พอใจอีกด้วย จึงตระหนักถึงความสำคัญของเวลา เราได้ทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพและในเวลาที่เหมาะสมทุกประการ


มาที่นี่ที่เดียวศูนย์รวมรถรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่

ด้วยความเป็นมืออาชีพในการให้ บริการรถรับจ้างเชียงใหม่ จึงรวมรถรับจ้างทุกประเภทไว้ด้วยกัน ณ ที่แห่งนี้แล้ว เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณอย่างไม่มีจำกัดหรือมีข้อแม้แต่อย่างใด คุณจึงมั่นใจได้ว่าสิ่งของทุกชิ้นของคุณจะได้รับการป้องกันอย่างดีจนถึงที่หมายปลายทางอย่างปลอดภัย


“บริการที่ฉับไว ได้คุณภาพ ราคาสบายๆ”

หาเราได้ที่ไหน จอดรถบริการจุดไหนบ้านในจังหวัดเชียงใหม่

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอจอมทอง

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอเชียงดาว

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอไชยปราการ

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอดอยเต่า

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอดอยหล่อ

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอดอยสะเก็ด

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอฝาง

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอพร้าว

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอแม่แจ่ม

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอแม่แตง

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอแม่ริม

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอแม่วาง

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอแม่อาย

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอแม่ออน

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอเวียงแหง

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอสะเมิง

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอสันกำแพง

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอสันทราย

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอสันป่าตอง

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอสารภี

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอหางดง

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภออมก๋อย

รถรับจ้างขนย้ายทั่วไป กระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างขนของในเขตอำเภอฮอด

ทางเรารถรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสดูแลท่านเรื่อยมากว่า 10 ปี และเราหวังว่าจะได้ดูแลท่าน รับใช้ท่าน บริการงานดีๆให้ท่านเช่นนี้ตลอดไป เราจะทำงานให้ดีที่สุด เราสัญญา

15
บริการรถรับจ้างขนของ เที่ยวระยองให้สุดคุ้มได้อย่างไร

จังหวัดระยองถือเป็นจังหวัดที่ เดินทางใช้เวลาไม่นานหากใครที่อยู่ในกรุงเทพหรือปริมณฑล ซึ่งใช้เวลาในการ ขับรถมาถึงตัวเมืองระยองจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างมาก ต้องบอกเลยว่าที่นี่ถือว่าเป็นเมือง ที่มีทั้งผลไม้และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงาม ใครที่ได้มีโอกาสมาสัมผัสบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติค เราขอแนะนำว่า จังหวัดระยองเป็นอีกหนึ่งจังหวัดของภาคตะวันออกที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างมากมาย วันนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากให้คุณได้ลองเปิดตามาเที่ยว ซึ่ง ได้แก่

1. ป่าสีทอง ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอีกที่หนึ่งจะตั้งอยู่ที่อำเภอแกลงจังหวัดระยอง แสงสีทองที่ไกลสุดลูกหูลูกตาในช่วงเวลาตอนเช้าเรืองอร่าม ได้สัมผัสกับธรรมชาติเต็มเต็ม บรรยากาศที่เงียบสงบ และอากาศที่บริสุทธิ์ ท่านต้องลองมาสัมผัสกับบรรยากาศดีๆแบบนี้ หรือหากใครที่ชอบถ่ายรูปแนะนำ ว่าบรรยากาศและวิวสวยมากๆ

2. เกาะเสม็ด ถือว่าเป็นเกาะที่มีความสวยงาม น้ำทะเลใสหาดทรายขาว หากพูดถึงเรื่องวรรณคดีเกาะเสม็ดนั้นก็คือเกาะแก้วพิสดารนั่นเอง ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมากอีกที่หนึ่งในจังหวัดระยอง ท่านที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวยังเกาะเสม็ดจะมีเรือให้บริการข้ามฟาก ซึ่งใช้เวลาไม่นานประมาณ 30 นาทีจากท่าเรือถึงเกาะเสม็ด สถานที่พักท่องเที่ยวก็ราคาไม่แพง ใครที่ชอบอยู่ติดทะเล ดูบรรยากาศ เกาะในเวลาตอนเช้าก็จะสวยมากๆ แต่หากใครที่ต้องการ save ค่าใช้จ่ายก็อาจจะ จองที่พัก ที่อยู่ ห่างทะเลได้เช่นเดียวกัน ซึ่งรีสอร์ทที่สวยงามอย่างมากมาย อาหารทะเลก็สด เหมาะที่จะมา เที่ยวเป็นครอบครัวและ เที่ยวกับแฟน

3. ตลาดบ้านเพ ถือว่าเป็นแหล่งที่จำหน่ายอาหารทะเลทั้งอาหารสดและอาหารแห้งอย่างมากมายมีร้านค้าให้ช้อปซื้อของฝาก เพราะที่นี่ถือว่าเป็นสะพานปลาที่ มีอาหารทะเลมาจำหน่ายอย่างมากมาย ดังนั้นหากท่านต้องการซื้ออาหารทะเลที่ราคาถูกแนะนำมาที่นี่ได้เลย

4. พระเจดีย์กลางน้ำ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองและห่างไกลจากตัวเมืองระยองเพียงแค่ 2 กิโลเมตร ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของ เจ้าเมืองในสมัยนั้น ที่ได้สร้างเจดีย์ขึ้น ว่า ได้เดินทางมาถึงระยองแล้ว และในช่วงวันเพ็ญเดือนสิบสองก็จะมีการแข่งเรือยาวมีประเพณีห่มผ้าพระเจดีย์เป็นต้น 5 หาดแม่รําพึง ถือว่าเป็นหาดที่สวยที่สุดของจังหวัดระยอง ใครที่ชอบเล่นน้ำทะเลสามารถลงมาเล่นน้ำได้แต่ควรจะต้องมีการระมัดระวังอันตราย ในช่วง ที่มีน้ำวน ซึ่งจะอยู่ตรงกลางของหาด 6 หาดแสงจันทร์ เป็นชายหาดที่อยู่ติดกับหาดแหลมเจริญ ใครที่ต้องการมาเล่นน้ำ ก็สามารถลงเล่นน้ำได้มีที่พักมีร้านอาหารอาหารทะเลอาหารสดให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติที่อร่อย ห่างจากตัวเมืองเพียงแค่ 7 กิโลเท่านั้น

7. น้ำตกเขาชะเมา หากท่านมาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้จะอยู่ไม่ไกลเลยจากลานจอดรถ ท่านสามารถที่จะมาลงเล่นน้ำ ได้ น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ และมีชื่อเสียงของอุทยาน มีวังมัจฉา วังมรกต ผากล้วยไม้ โดยเฉพาะวังมัจฉาจะมีปลาพลวง อาศัยอยู่

         
นี่ก็เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดระยองเบื้องต้นที่เราอยากให้คุณได้มีโอกาสมาเที่ยว ได้มาสัมผัสกับกลิ่นไอความเป็นธรรมชาติของจังหวัดระยอง ซึ่งในจังหวัดแห่งนี้ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีทั้งสระที่ท่องเที่ยวและความเจริญทางด้านเศรษฐกิจมีโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย ทั้งนิคมอุตสาหกรรมจึงทำให้จังหวัดระยองมีการเติบโตในทุกๆด้าน 5 ใครที่มาเที่ยวแล้วมีความกังวลในเรื่องของการเดินทาง หรือ ใครที่เข้ามาทำธุรกิจอย่างจังหวัดระยอง อาจจะมีความกังวลในเรื่องของ การคมนาคมขนส่ง การขนย้ายสินค้าของบริษัทของท่าน ก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากว่าในจังหวัดระยองนั้นมีผู้ให้บริการรถรับจ้างจังหวัดระยอง ที่ไว้คอยบริการ สำหรับใครที่ต้องการขนย้ายของ ขนย้ายบ้าน ขนย้ายสินค้าทั่วไปซึ่งมี รถรับจ้างขนของ อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้าง รถ 6 ล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง และรถรับจ้างจังหวัดระยอง อื่นทุกครั้งมีให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมง หากท่านสนใจที่จะใช้ บริการรถขนของรับจ้างจังหวัดระยอง สามารถติดต่อสอบถาม สายด่วนหรือ เบอร์ผู้ให้บริการที่ ราคาไม่แพงและงานคุณภาพ ท่านสามารถโทรเข้าไปได้

ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ รถรับจ้างจังหวัดระยอง ที่ให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี บริการงานที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง เราจึงอยากแนะนำหากใครหลายคนที่มาเที่ยวจังหวัดระยองแล้วไม่รู้ว่าจะต้องใช้บริการรถรับจ้างจากที่ไหนที่ไว้ใจได้ หรือต้องการที่จะขนย้ายของ ขนย้ายบ้าน ก็สามารถเรียกใช้บริการผู้ให้บริการรายนี้ได้เลยลองโทรสอบถามติดต่อดูเราเป็นเพียงแค่สื่อกลาง ที่จะให้ข้อมูลแก่ท่านในหลายคนเพียงเท่านั้น

จุดจอดหรือจุดบริการต่างๆของ รถรับจ้างขนของจังหวัดระยอง มีจุดจอดหลายจุดด้วยกัน ท่านสามารถที่จะเรียกใช้บริการในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดดังนี้

รถขนของทั่วไป รับจ้างย้ายบ้านอำเภอเมืองระยอง

รถขนของทั่วไป รับจ้างย้ายบ้านอำเภอปลวกแดง

รถขนของทั่วไป รับจ้างย้ายบ้านอำเภอแกลง

รถขนของทั่วไป รับจ้างย้ายบ้านอำเภอนิคมพัฒนา

รถขนของทั่วไป รับจ้างย้ายบ้านอำเภอบ้านค่าย

รถขนของทั่วไป รับจ้างย้ายบ้านอำเภอเขาชะเมา

รถขนของทั่วไป รับจ้างย้ายบ้านอำเภอบ้านฉาง

รถขนของทั่วไป รับจ้างย้ายบ้านอำเภอวังจันทร์


หน้า: [1] 2 3 ... 57