ผู้เขียน หัวข้อ: ซ่อมบำรุงอาคาร: เลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมกับบ้านคุณ  (อ่าน 142 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 383
  • โพสประกาศขายในไทยฟรี
    • ดูรายละเอียด
การเลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ หรือสำนักงาน นับว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง โดยปกติช่างที่ผ่านการอบรมมาจะมีความรู้ในเรื่องการใช้สายไฟอยู่แล้ว แต่หากมีการซื้อสายไฟโดยให้คนที่ไม่มีความรู้ไปซื้ออาจเกิดข้อผิดพลาดได้ ดังนั้นการเลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมกับบ้าน จึงมีข้อควรรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ประเภทของสายไฟ ว่ามีกี่ประเภท สายไฟแต่ละประเภทสามารถใช้ไฟฟ้า กี่โวทล์ ใช้ทำ อะไรได้บ้าง


ประเภทของสายไฟ ไฟฟ้าแรงดันต่ำ ไฟฟ้าแรงดันสูง

สายไฟจะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สายสำหรับไฟแรงดันต่ำและสำหรับไฟแรงดันสูง ซึ่งสายไฟที่ใช้ตามอาคารบ้านเรือนจัดอยู่ในประเภทสายไฟแรงดันต่ำ สำหรับในประเทศไทยนั้น สายไฟแรงดันต่ำจะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.11-2531 หรือ TIS-11-2531 ตามมาตรฐานแล้วสายไฟแรงดันต่ำจะต้องมีหลายขนาด (พื้นที่หน้าตัด) ตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งจะต้องทนแรงดันไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 300 โวลต์ ถึง 750 โวลต์ มีลักษณะเป็นสายหุ้มฉนวน ทำด้วยทองแดงหรืออลูมิเนียม โดยทั่วไปแล้วจะเป็นสายทองแดงขนาดเล็กจะเป็นตัวนำตัวเดียว แต่สายขนาดใหญ่เป็นตัวนำตีเกลียว วัสดุฉนวนที่ใช้กับสายแรงดันต่ำ คือ Polyvinyl Chloride (PVC) และ Cross –Linked Polyethylene (XLPE) ได้แก่ สาย THW,VAF, VAF-GRD,NYY,NYY-GRD,0.6/1KV-CV,VCT,VCT-GRD,VSF,AV,VFF,VKF

*สายไฟตามมาตรฐาน มอก.11-2531 จะแบ่งเป็นประเภทตามขนาด ความทนแรงดันไฟและการใช้งานได้*
1. สายไฟฟ้าแรงดันต่ำ (Low Voltage Power Cable)

    สายไฟที่ใช้กับแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เกิน 750 โวทล์ (750V)
    สายไฟนั้นทำด้วยทองแดงหรืออลูมิเนียม แต่โดยทั่วไปจะเป็นสายทองแดง
    สายขนาดเล็กจะเป็นสายตัวนำเดี่ยว และสายขนาดใหญ่จะเป้นตัวนำตีเกลียว
    ฉนวนที่ใช้งานจะเป็น PVC และ XLPE

1.1 สายไฟชนิด THW

สายไฟชนิด THW จะเป็นสายไฟชนิดแรงดันต่ำ รองรับแรงดันได้ 750V เป็นสายชนิดเดี่ยว มีการใช้งานอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากนำไปใช้ในวงจรไฟฟ้า 3 เฟสได้ ซึ่งสายไฟชนิดนี้ไม่เหมาะสำหรับการเดินฝังดินโดยตรง และเมื่อต้องการเดินลอยจะต้องยึดสายด้วย Insulator ด้วย


1.2 สายไฟชนิด VAF

สายไฟชนิด VAF จะเป็นสายไฟชนิดแรงดันต่ำ สามารถทนแรงดันได้ 300V มีทั้งชนิดสายเดี่ยว สายคู่ และแบบสามสายที่รวมสายดินไปด้วย โดยที่แต่ละสายก็จะมีฉนวนหุ้ม และมีเปลือกหุ้มที่เป็นฉนวนอยู่อีกชั้นหนึ่งด้านนอก เป็นสายไฟชนิดที่นิยมในการเดินภายในบ้านทั่วไป แต่ไม่สามารถใช้งานในการติดตั้งไฟฟ้า 3 เฟสได้ เพราะไม่สามารถรองรับแรงดันที่ 380V ได้ ยกเว้นจะติดตั้งแบบแยกเป็นแบบ 1 เฟส และใช้แรงดัน 220V


1.3 สายไฟชนิด VCT

สายไฟชนิด VCT จะเป็นสายไฟชนิดแรงดันต่ำ สามารถทนแรงดันได้ 750V ตัวสายมีลักษณะกลม มีทั้งชนิด 1 ,2 แกน, 3 แกน และ 4 แกน โดยจุดเด่นของสายชนิดนี้คือจะเป็นสายที่ประกอบด้วยสายทองแดงฝอยเส้นเล็กๆ จึงทำให้สายมีความอ่อนตัวและทนต่อการสั่นสะเทือนได้ดี และยังเป็นสายที่สามารถต่อลงดินได้


1.4 สายไฟชนิด NYY

สายไฟชนิด NYY เป็นสายไฟชนิดกลมที่สามารถทนแรงดันได้ 750V มีทั้งแบบแกนเดียว และหลายแกน เป็นสายที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นสายที่มีเปลือกหุ้มอีกชั้น จึงสามารถป้องกันความเสียหายทางกายภาพได้ดีโดยสายชนิดนี้สามารถเดินฝังใต้ดินได้


2. สายไฟฟ้าแรงดันสูง (High Voltage Power Cable)

    จะเป็นสายชนิดตีเกลียวที่มีขนาดใหญ่
    สายชนิดนี้จะมีทั้งสายแบบทั้งแบบเปลือยและหุ้มฉนวน
    สายไฟสามารถรับแรงดันได้ตั้งแต่ 1 KV ~ 36KV

2.1 สายไฟฟ้าอลูมิเนียมตีเกลียวชนิดเปลือย (AAC)

เป็นสายที่ใช้ตัวนำเป็นอะลูมิเนียมพันตีเกลียวเป็นชั้นๆ สายชนิดนี้สามารถรับแรงดันได้ต่ำ จึงไม่สามารถขึงสายให้กับเสาที่มีระยะห่างมากๆ ได้ โดยทั่วไปจะไม่เกิน 50m ยกเว้นสายที่มีขนาด 95 mm. ขึ้นไปอาจจะขึงได้ถึง 100 m.


2.2 สายไฟฟ้าอลูมิเนียมชนิดผสม (AAAC)

เป็นสายที่ผสมตัวนำจากหลายวัสดุ ทั้งอลูมิเนียม แมกนีเซียม และซีลิกอน ทำให้มีความเหนียวและแรงดันได้สูงกว่า สายอลูมิเนียมล้วน ๆ ทำให้ขึงสายได้ในระยะห่างได้มากขึ้น และทนต่อการกัดกร่อนของไอเกลือได้ดี จึงนิยมใช้เดินสายในบริเวณชายทะเล


2.3 สายไฟฟ้าอลูมิเนียมชนิดแกนเหล็ก (ACSR)

เป็นสายไฟที่ใช้ตัวน้ำเป็นอลูมิเนียมตีเกลียว และมีสายเหล็กอยู่ตรงกลาง ทำให้สามารถรับแรงดึงได้สูงขึ้น ทำให้สามารถขยายระยะห่างระหว่างเสาในการขึงได้มากขึ้น แต่สายชนิดนี้ไม่ทนต่อการกัดกร่อนของไอเกลือ จึงไม่ควรใช้งานบริเวณชายทะเล


2.4 สาย Partial Insulated Cable (PIC)

เป็นสายไฟชนิดที่นำมาใช้แทนสายเปลือย เพราะสายเปลือยมีโอกาสที่ไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย โดยสายชนิดนี้ประกอบด้วยตัวนำอะลูมิเนียมตีเกลียว แล้วหุ้มด้วยฉนวน XLPE แต่ถึงแม้ว่าสายนี้จะหุ้มฉนวนจริง แต่เป็นเพียงฉนวนที่ช่วยป้องกันการลัดวงจรเพียงเท่านั้น ห้ามสัมผัสโดยตรง


2.5 สาย Space Aerial Cable (SAC)

เป็นสายไฟที่มีอลูมิเนียมตีเกลียวเป็นตัวนำ และหุ้มด้วยฉนวน XLPE เช่นเดียวกันกับสายไฟชนิด PIC แต่จะมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่งทำให้มีความทนทานมากกว่าสายชนิด PIC แต่ถึงแม้ว่าจะหุ้มเปลือกอีกชั้น ก็ไม่ควรแตะต้องโดยตรงเช่นกัน แต่สายชนิดนี้ก็สามารถวางใกล้กันได้มากกว่าสาย PIC


2.6 สาย Preassembiy Aerial Cable (PAC)

เป็นสายไฟที่จัดเป็นสายชนิด Fully Insulated มีโครงสร้างใกล้เคียงกับสายไฟชนิด XLPE มีตัวนำเป็นอลูมิเนียม มีความทนทานมาก เป็นสายที่วางใกล้กันได้ สามารถเดินผ่านอาคารหรือบริเวณที่มีคนอาศัยอยู่ หรือวางพาดไปกับมุมตึกได้


2.7 สาย Cross-linked Polyethylene (XLPE)

เป็นสายที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน จัดเป็นสายชนิด Fully Insulated ที่มีส่วนประกอบหลายส่วน ดังนี้

1. ตัวนำ : โดยส่วนใหญ่จะเป็นทองแดงตีเกลียว ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบของ Copper Concentric Strand หรือ Copper Compact Strand

2. ชีลด์ของตัวนำ : ทำจากสารกึ่งตัวนึง ทำให้สนามไฟฟ้าระหว่างตัวนำกับฉนวนกระจายได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดการเกิด Breakdown

3. ฉนวน : เป็นชั้นที่หุ้มห่อชั้นชีลด์ของตัวน้ำอีกชั้นหนึ่งทำด้วยฉนวน XLPE

4. ชีลด์ของฉนวน : เป็นชั้นที่หุ้มทับชั้นของฉนวนอีกที และหุ้มด้วยชั้นของลวดทองแดง หรือเทปทองแดงอีกที เพื่อจำกัดสนามไฟฟ้าให้อยู่ภายในสายเคเบิ้ล ป้องกันการรบกวน และการต่อชีลด์ลงดินจะช่วยลดอันตรายจากการสัมผัสถูกสายเคเบิ้ลด้วย ทำให้การกระจายของแรงดันอย่างสม่ำเสมอ

5. เปลือกนอก : โดยทั่วไปจะหุ้มด้วยพลาสติก PVC หรือ PE ขึ้นอยุ่กับลักษณะของงาน โดยทั่วไปถ้าใช้งานกลางแจ้งจะใช้เป็น PVC ส่วน PE มักจะใช้กับการเดินลอย เพราะมีความทนทานต่อสภาพอากาศ และถ้าหากเดินใต้ดินอาจจะมีชั้นของ Service Tape อาจจะทำด้วยผ้า คั่นระหว่างชีลด์กับเปลือกนอกช่วยป้องกันการเสียดสีและกระทบกระแทก


เลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมกับประเภทของงานคุณ

1. สายไฟสำหรับติดตั้งภายในบ้าน หรือ อาคาร

การเลือกสายไฟสำหรับ บ้านพักอาศัย หรือ อาคารขนาดเล็ก สิ่งสำคัญที่สุดคือ เรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของการผลิตที่ได้มาตรฐาน มอก. และ มาตรฐานระดับสากล IEC เพราะสายไฟในกลุ่มประเภท Household รวมไปถึงสายโทรศัพท์ เป็นสายไฟที่ใกล้ตัวผู้อยู่อาศัยมากที่สุด และอยู่รอบตัวของผู้ใช้ตลอดเวลา ดังนั้นควรเลือกใช้สายไฟฟ้าที่ผลิตได้ถูกต้องตรงมาตรฐานกำหนด คุณภาพสูง และ มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน นอกจากนั้นควรพิจารณาถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตด้วย ซึ่งได้แก่

    ตัวนำทองแดง มีค่าความนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม โดย Phelps dodge เลือกใช้ทองแดงบริสุทธิ์ 99% ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุด
    ฉนวนและเปลือกสายไฟต้องเลือกใช้ PVC เกรดพิเศษที่สามารถทนอุณหภูมิความร้อนได้ตรงตามมาตรฐานกำหนด เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไม่รั่วไหลมาทำอันตรายแก่ผู้ใช้งาน และสายไฟมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สำหรับสายไฟในกลุ่ม Household จะมีแรงดันไฟฟ้าตั้งแต่ 300V-750V ได้แก่ สาย 60227 IEC01 (THW),VCT,VAF,NYY


2. สายไฟฟ้าสำหรับระบบสาธารณูปโภค

สายไฟฟ้าในระบบสาธารณูปโภค เป็นระบบที่สำคัญในการเชื่อมโยง ระบบไฟฟ้าแรงสูงจากโรงผลิตไฟฟ้า เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่แห่งพลังงานไฟฟ้า ที่เชื่อมต่อให้ประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้นสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลที่ใช้งานเพื่อเป็นสายส่งนั้น ต้องมีความปลอดภัยสูงสุด มีสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา ดังนั้นควรเลือกใช้สายไฟฟ้าที่ผลิตได้ถูกต้องตรงมาตรฐานกำหนด คุณภาพสูง และ มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน นอกจากนั้นควรพิจารณาถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตด้วย ซึ่งได้แก่

    ตัวนำทองแดง มีค่าความนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม โดย Phelps dodge เลือกใช้ทองแดงบริสุทธิ์ 99% ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุด
    ฉนวนของสายไฟเป็นฉนวน Cross-linked polyethylene(XLPE) ที่ต้องมีความทนทาน และทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส
    สายไฟที่่ใช้ในงานสาธารณูปโภค โรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้า การไฟฟ้า การส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าบนดินและใต้ดิน นั้นจะประกอบไปด้วยสายไฟฟ้าแรงดันปานกลาง สายไฟฟ้าแรงดันสูง และสายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ รวมไปถึงสายไฟฟ้าที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษเพื่อป้องกันน้ำ ป้องกันไอระเหยหรือการกัดกร่อนจากสารเคมี และอาจมีการเสริมโครงสร้างโลหะเพื่อรับแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นจากการติดตั้ง โดยเป็นสายไฟฟ้าแรงดันสูงตั้งแต่ 36kV – 170kV และ สายไฟแรงดันสูงพิเศษ 230 kV ขึ้นไป


3.สายไฟที่ใช้ในงานอาคารสูง อาคารสาธารณะ อาคารขนาดใหญ่พิเศษ

การติดตั้งสายไฟภายในอาคารสูง โรงงาน หรือ อาคารสาธารณะ ต้องเริ่มจากการออกแบบให้เป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับและต้องเลือกใช้สายไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานกำหนด เพราะความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ดังนั้นควรเลือกใช้สายไฟฟ้าที่ผลิตได้ถูกต้องตรงมาตรฐาน คุณภาพสูง และ มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน นอกจากนั้นควรพิจารณาถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตด้วย ซึ่งได้แก่

     ตัวนำทองแดง มีค่าความนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม โดย Phelps dodge เลือกใช้ทองแดงบริสุทธิ์ 99% ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุด
    ฉนวนของสายไฟเป็นฉนวน Cross-linked polyethylene(XLPE) ทึ่ต้องมีความทนทาน และทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส
    สายไฟบางชนิดควรมีโครงสร้างโลหะเพื่อสามารถรับแรงกระแทกที่เกิดจากติดตั้งสำหรับสายไฟในกลุ่ม Building and Construction จะเป็นสายไฟชนิด Low Voltage โดยมีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 1,000V เช่น สาย CV,CV-AWA,CV-SWA เป็นต้น


4. สายไฟที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป ตลอดจนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี วัสดุพอลิเมอร์ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ

การออกแบบและติดตั้งสายไฟฟ้าในระบบอุตสาหกรรมทั่วไป ตลอดจนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี วัสดุพอลิเมอร์ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ต้องคำนึงถึงประเภทของสายไฟชนิดพิเศษที่มีความเหมาะสมต่อระบบอุตสาหกรรม เครื่องจักรที่ใช้งาน ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบป้องกันไฟไหม้

เพื่อให้กระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมเป็นไปได้อย่างถูกต้อง สะดวก และ ปลอดภัยสูงสุด ดังนั้นควรเลือกใช้สายไฟฟ้าที่ผลิตได้ถูกต้องตรงมาตรฐานกำหนด คุณภาพสูง และ มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน นอกจากนั้นควรพิจารณาถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตด้วย ซึ่งได้แก่

    ตัวนำทองแดง มีค่าความนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม โดย Phelps dodge เลือกใช้ทองแดงบริสุทธิ์ 99% ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุด
     ฉนวนของสายไฟเป็นฉนวน Cross-linked polyethylene(XLPE) ที่ต้องมีความทนทาน และทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส
    สายไฟในกลุ่ม Industrial,Oil&Gas and Petrochemical ประกอบไปด้วยสายไฟฟ้าแรงดันต่ำ สายไฟฟ้าแรงดันปานกลาง และสายไฟฟ้าแรงดันต่ำที่มีคุณสมบัติพิเศษชนิดทนไฟ ไม่ลามไฟ มีควันน้อย และไม่มีก๊าซพิษ รวมไปถึงสายไฟฟ้าที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษเพื่อป้องกันน้ำ ป้องกันไอระเหยหรือการกัดกร่อนจากสารเคมี และอาจมีการเสริมโครงสร้างโลหะเพื่อรับแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นจากการติดตั้ง


ประโยชน์ของการเลือกใช้สายไฟที่ถูกต้อง

สายไฟที่มีคุณภาพ ปัจจุบันไฟฟ้าเป็นสิ่งที่จำเป็นและอยู่รอบตัวเรา เราใช้ไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกๆวัน ไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์ แก่ มนุษย์อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตามแม้ว่าไฟฟ้าจะให้ประโยชน์มากมายเพียงใด หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ใช้ด้วยความประมาท ก็อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินได้เช่นกัน การใช้ไฟฟ้าจึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

สายไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นทั้งตัวนำพลังงานไฟฟ้ามาให้เราใช้งานและขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ปกป้องเราจากอันตรายของไฟฟ้าด้วย สายไฟฟ้าที่ไม่ได้คุณภาพมักจะผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพต่ำ หรือคุณลักษณะไม่ผ่านตามมาตรฐาน เช่น ขนาดตัวนำทองแดงหรือความหนาฉนวนต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งส่งผลให้สายไฟฟ้าไม่สามารถทนแรงดันไฟฟ้าหรือจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามที่มาตรฐานกำหนด เมื่อนำมาใช้งานก็อาจเกิดความร้อนสูงหรือเกิดลัดวงจร เป็นอันตรายร้ายแรงขึ้นได้ ดังนั้นการเลือกใช้สายไฟฟ้าจึงไม่ควรพิจารณาเพียงราคาถูกที่สุดหรือใช้สายอะไรก็ได้ แต่จำเป็นต้องเลือกใช้สายไฟที่มีความน่าเชื่อถือ และมีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของคุณจากอันตรายที่อาจเกิดจากการใช้ไฟฟ้าในแต่ละวัน

ซ่อมบำรุงอาคาร: เลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมกับบ้านคุณ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/